โบรกฯฟัน 11 หุ้นเด็ด SET ปรับขึ้นตามตลาด ตปท.
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเด็นรับการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ขณะที่ภาพทางเทคนิคดัชนียังอยู่ในรูปแบบพักฐาน แนวโน้มขาขึ้น การลงทุนเน้นหุ้นที่ได้รับผลดีจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และกลุ่มพลังงาน - โรงกลั่นจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.10 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังแกนนำในสภาคองเกรสของสหรัฐฯบรรลุข้อตกลงในการขยายเพดานหนี้ออกไปจนถึงวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐ (ชัตดาวน์) ได้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเด็นรับการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ขณะที่ภาพทางเทคนิคดัชนียังอยู่ในรูปแบบพักฐาน แนวโน้มขาขึ้น การลงทุนเน้นหุ้นที่ได้รับผลดีจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และกลุ่มพลังงาน – โรงกลั่นจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น หุ้นเด่นเลือก PTT, PTTGC, TOP, ESSO, IRPC, AMATA, WHA, STEC, IVL, BCP และ IRPC
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (7 ก.ย.) มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามตลาดภูมิภาค หลังประเด็นการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯได้บรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสแล้ว โดยขยายระยะเวลาไปจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.60 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 29 ก.ย.60 การขยายระยะเวลานี้ทำให้หลีกเลี่ยงการ shut down บางหน่วยงานของรัฐ และส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นทำให้ไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คืนนี้ด้วยว่าจะมีการพูดถึงการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ สำหรับบ้านเรานักลงทุนอาจต้องระวังการลงทุนบ้าง หลังจากที่เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิเป็นวันแรก แต่กองทุนในประเทศได้กลับมาซื้อหลังจากที่ได้ขายต่อเนื่อง พร้อมให้แนวรับ 1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,626 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ก.ย.) แม้ตลาดหุ้นโลกกังวลประเด็นเกาหลีเหนือ แต่มองการ “ย่ำฐาน” ของ SET บริเวณ 1,612 – 1,620 จุด เป็นโอกาส “ซื้อ” และคงมุมมอง “บวก” ต่อ SET ระยะสัปดาห์ เป้าหมาย 1,650 +/- จุด เหมือนเดิมจาก 1) เศรษฐกิจเร่งตัวใน 1 – 3 ปีข้างหน้า 2) กำไร SET ทำจุดสูงสุดใหม่ 3) การเมืองมีเสถียรภาพหนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนา EEC มีความต่อเนื่อง สำหรับภาพทางเทคนิค SET พักฐานในแนวโน้มขาขึ้นรูปแบบ Bullish Pennant (ลุ้นทะลุแนวต้านระยะสั้น 1,624 จุด) และ Trade Code อยู่ที่ “Let Profit Run” โดยมีหุ้นโมเมนตัมบวก 84% ของ Market Cap
แนะนำ 1) “ซื้อ” PTT และกลุ่มโรงกลั่น อย่าง TOP (XD 1.5 บาท วันนี้), SPRC (ปันผลสูง 9%) และ ESSO (PE17 ต่ำ 6.4 เท่า และคาดจ่ายปันผลได้ปีนี้) และ IRPC ผลดีค่าการกลั่นสูงหนุนกำไร 3Q17 + ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น, 2) “ซื้อ” กลุ่มนิคมฯ และรับเหมาฯ อย่าง AMATA WHA STEC มองการเมืองมีเสถียรภาพหนุนการลงทุนโรงสร้างพื้นฐาน – พัฒนา EEC และ 3) “ซื้อ” CPNRF DIF ให้ปันผลสูง 7 – 8% มองแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำนาน
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ก.ย.) คาด SET ยังแกว่งตัวในกรอบ 1,615 – 1,630 จุด อยู่ระหว่างรอประเมินปัจจัยใหม่ แนะนำซื้อกลุ่มปิโตรเคมี,โรงกลั่น เช่น PTTGC, IVL, BCP, IRPC, ESSO (+ สเปรดราคาผลิตภัณฑ์ , ค่าการกลั่น)