พร้อมแล้วลุย
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในวันนี้ทำให้ “โมนิก้า” ไม่ค่อยมีอารมณ์ไปวิเคราะห์ “เรื่องนั้น เรื่องนี้” ให้เสียเวลาเล่นรอบ เพราะเรื่องทั้งหมดอยู่ในกระแสสังคมเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ต้องอธิบายอะไรให้ยืดเยื้อ ซึ่งเหมือนกับเรื่องที่เคยย้ำให้ฟังเป็นประจำว่า เมื่อดัชนีผ่านกระบวนการพลิกแนวต้านเป็นแนวรับ พร้อมกับย่ำฐานทดสอบแรงเทขายอีกพักใหญ่ๆ ก็จะวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมนะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในวันนี้ทำให้ “โมนิก้า” ไม่ค่อยมีอารมณ์ไปวิเคราะห์ “เรื่องนั้น เรื่องนี้” ให้เสียเวลาเล่นรอบ เพราะเรื่องทั้งหมดอยู่ในกระแสสังคมเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ต้องอธิบายอะไรให้ยืดเยื้อ ซึ่งเหมือนกับเรื่องที่เคยย้ำให้ฟังเป็นประจำว่า เมื่อดัชนีผ่านกระบวนการพลิกแนวต้านเป็นแนวรับ พร้อมกับย่ำฐานทดสอบแรงเทขายอีกพักใหญ่ๆ ก็จะวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมนะคะ
*ยิ่งตลาดไปให้น้ำหนักในเรื่องการเคลื่อนย้ายเงินทุนมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแรงกระเพื่อมมากขึ้นเท่านั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเสียที เพราะวันนี้ต้องมองไปข้างหน้ากันอย่างเต็มตัว ไม่มีเวลามานั่งสนใจเรื่องอื่นอีกแล้ว แต่ดูเหมือนว่า คำแนะนำจากเดี๊ยนจะเป็นเพียงแค่สายลมที่พัดเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาซะมากกว่า..อิอิอิ
*ถามว่า เดี๊ยนยังมีอารมณ์ขันมาเล่าเรื่องแบบนี้อีกเหรอ? เดี๊ยนขอตอบว่า ก็ไม่มีอะไรต้องซีเรียสแล้วไม่ใช่เหรอ? เพราะทุกคนต่างรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นอย่างดี “โมนิก้า” ถึงเห็นดัชนีทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทะลุแนวต้าน 1,600 จุด ต่อจากนั้นวิ่งผ่านแนวต้าน 1,625 จุด จุด และเตรียมจะวิ่งทะลุแนวต้าน 1,650 จุดในไม่ช้า ซึ่งเป็นผลมาจากก๊วนนักลงทุนสถาบันเข้ามาไล่หุ้นอีกรอบนะซี
*ประเด็นตรงนี้เห็นได้จากการเคลื่อนตัวของดัชนีที่ทะยานขึ้นอย่างช้าๆ จนล่าสุดขึ้นมายืนที่ 1,635 จุด บวกไป 2.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เข้ามาอย่างหนาแน่นถึง 7.67 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ทำให้กองเชียร์ฮึกเหิมไปตามๆ กันเลยทีเดียว เพราะข้อมูลที่แสดงออกมาในเที่ยวนี้ มันสะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางจิตใจมากกว่าความกังวลใจ วันนี้ถึงต้องซอยยิกๆ ลูกเดียวนะคะ
*เหมือนกับในรายของ ZIGA ที่เข้าตลาดมาช่วงแรกยัง “ลุ่มๆ ดอนๆ” ก่อนจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนาแน่นเมื่อท้ายสัปดาห์ก่อน ล่าสุดราคาหุ้นไต่มาที่ระดับ 7.20 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือ 6.67% ด้วยมูลค่า 745.20 ล้านบาท เห็นรูปแบบการขึ้นแรงบวกด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่นแบบนี้ไม่บอกก็คงรู้นะว่าใครเป็นมือดีเข้ามาลากหุ้นให้ขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดอีก งานนี้ “โมนิก้า” เลยไม่ขอคอนเฟิร์มนะเจ้าคะว่าหุ้นจะไปต่อ หรือจะกลับมาที่จุดเดิมๆ อีกครั้ง
*สำหรับหุ้นดาวรุ่งขวัญใจขาใหญ่ “โมนิก้า” ยกให้ AOT หลังจากราคาถีบตัวขึ้นมาเรื่อยๆ ล่าสุดขึ้นมาปิดที่ 55.25 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือ 0.91% ด้วยมูลค่า 2.92 พันล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นหุ้น “ราศีดีไม่มีตก” มีปัจจัยบวกไม่ขาดสาย แถมคนเขาเม้าท์กันสนั่นว่าผลงานปีนี้โดดเด่นแน่นอน ไล่เรียงมาตั้งแต่จำนวนผู้โดยสารที่ไหลทะลัก บวกกับรายได้ให้เช่าสนามบินดอนเมือง ประเด็นนี้ทำให้เดี๊ยนมองเห็นช็อตต่อเนื่องที่ยังดันให้หุ้นไปได้อีกไกลยังไงล่ะค่ะ
*หันมาเอาใจแฟนพันธ์แท้ ECF กันบ้าง ที่ตอนนี้คงโล่งอกโล่งใจ เพราะราคาหุ้นลากมาปิดที่ 5.10 บาท บวก 0.28 บาท หรือ 5.81% ด้วยมูลค่า 152.79 ล้านบาท นิวไฮในรอบกว่า 2 ปี งานนี้ราคาหุ้นไม่ได้ขึ้นแบบลอยๆ ก็บรรดาเซียนออกโรงเชียร์สุดลิ่มทิ่มประตูว่าผลงานครึ่งปีหลังสดใส บวกกับแจกวอร์แรนต์ ECF-W2 และ ECF-W3 ขึ้น XW วันที่ 6 ต.ค.นี้ “โมนิก้า” เลยอยากแนะให้จับตาดูหุ้นตัวนี้เป็นพิเศษยังไงล่ะเจ้าค่ะ
*ทฤษฏีเข้าเขตซื้อมากเกินไปคงใช้ไม่ได้ไม่ได้กับ ASIAN ที่ดูเหมือนว่ายังไม่หมดรอบเล่น ล่าสุดกระชากมาปิดที่ 19.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือ 5.41% ด้วยมูลค่าหนาแน่นถึง 1.86 พันล้านบาท แต่ “โมนิก้า” ยังคงมองมุมเดิม กับราคาหุ้นที่ขึ้นมาสูงจนน่าหวาดเสียวรับกับวอลุ่มที่โป่งพองจนน่าสังเกต ถือเป็นจุดที่น่าเคาะขวาหรือเปล่าอันนี้ต้องลองถามใจตัวเองว่า “ชอบเล่นของสูง” แค่ไหนก่อนนะเจ้าค่ะ
*ปิดท้ายกันที่ QTC ที่ดูเหมือนจะเกาะกระแสเพิ่มทุนกับเขาด้วย หลังบอร์ดเตรียมออกหุ้นเพิ่มทุน PP 70 ล้านหุ้น ที่ 13 บาท/หุ้น ต่ำกว่ากระดาน หวังรับเม็ดเงินเต็มๆ 900 ล้านบาท โดยวาดฝันเอาไว้ว่าจะเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ ฟากราคาหุ้นตอบรับแผนเพิ่มทุนซะดิบดี กระชากตัวขึ้นไปปิดที่ 14 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 7.69% ด้วยมูลค่า 41.10 ล้านบาท เมื่อมติบอร์ดมาแน่นขนาดนี้ ก็เหลือแต่ผู้ถือหุ้นเท่านั้นแล้วล่ะว่าจะให้ 3 ผ่านหรือเปล่า…อิอิ