กล้าตามน้ำไหม?

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ตลอดทั้งสัปดาห์มีข้อมูลไหลเข้ามาหา “โมนิก้า” เยอะมากจนแทบจำไม่ได้ว่า เคยดูเรื่องนั้นไปหรือยัง! เคยอ่านข้อมูลตรงนี้ไปกี่เที่ยว! สุดท้ายก็มาจบเอาตรงที่เงินทุนไหลเข้าเต็มตัวหรือยัง? แนวต้านสำคัญทางจิตวิทยายังทำงานได้ดีไหม? หรือแม้กระทั่งตลาดหุ้นไทยตอบรับเรื่องผลประกอบการไปถึงไหนแล้ว? ทั้งหลายทั้งมวลเป็นข้อมูลที่เห็นกันจนชินตาแล้วนะคะ

*งานนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้มากความ เพราะทั้งหมดเป็นข้อมูลที่มีผลกระทบกับตลาดหุ้นเต็มๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า ช่วงนั้นจะมีการหยิบยกประเด็นไหนขึ้นมาปั่นกระแส “โมนิก้า” ถึงอยากให้มิตรรักแฟนเพลงเข้าใจบริบทของการลงทุนเที่ยวนี้ มันเป็นการวัดกำลังระหว่าง “แรงซื้อ” กับ “แรงขาย” โดยมีตัวแปรอยู่ที่การตั้งฐานของดัชนีมั่นคงแข็งแกร่งขนาดไหนเจ้าค่ะ

*วันนี้ถึงต้องมองการยืนหยัดของดัชนีเหนือแนวรับ 1,650 จุดได้นานแค่ไหน! เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,659.10 จุด บวกไป 16.16 จุด ด้วยมูลค่า 7.21 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า นักเล่นกลุ่มสถาบันหวนกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างเต็มตัวอีกรอบ ส่งผลให้ดัชนีช่วงนี้วิ่งขึ้นปรู๊ดปร๊าด ขณะที่วอลุ่มการซื้อขายช่วงนี้หนาแน่นผิดปกติไงล่ะค่ะ

*ถามว่า ตรงนี้มีอะไรที่นักลงทุนควรรู้ไหม? เดี๊ยนขอตอบตรงๆ เลยว่า ควรเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่นๆ หลังมีการเปรยๆ เกี่ยวกับความมั่นคงของแบงก์หนาหูขึ้นเรื่อยๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเริ่มหันมามองการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มนี้มาจากประเด็นอะไรเป็นหลัก รวมทั้งสำรวจดูเรื่อง NPL ต่อจากนี้จะมีพัฒนาการไปในทางที่ “เพิ่มขึ้น” หรือ “ลดลง” นะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ KBANK กระชากขึ้นมาปิดที่ 218 บาท บวกไป 7 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่า 2.24 พันล้านบาท “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า จริงๆ ทุกอย่างสวยงามขนาดนี้ไหม? เพราะเมื่อกลางเดือนก่อนเพิ่งโดนกดหัวจนลงไปยืนแถว 190 บาท พอเห็นว่า กดหัวไม่ลงจริงๆ ก็มีแรงซื้อไหลกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนหุ้นถึงพุ่งกระฉูดอย่างที่เห็นแบบนี้ มันขึ้นด้วยพื้นฐานจริงไหมตัวเอง

*เช่นเดียวกับอาการที่หุ้น SCB ขยับขึ้นมาปิดที่ 153.50 บาท บวกไป 1.50 บาท ด้วยมูลค่า 1.82 พันล้านบาท “โมนิก้า” ไม่สามารถมองเป็นอื่นไปได้ นอกเสียจากพวกกองทุนเข้ามาเล่นรอบใหม่ หุ้นถึงไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง แถมยอดเดิมอยู่สูงกว่านี้ค่อนข้างเยอะ จึงเป็นจังหวะของการเล่นตามน้ำ หลังเห็นกันจะจะว่า เที่ยวนี้มาด้วยแรงซื้อนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก แต่เมื่อใดที่เรื่องบางเรื่องปูดขึ้นมา ก็ตัวใครตัวมัน หนูบอกได้แค่นี้นะจ๊ะ

*อีกหนึ่งรายที่ต้องรีบวิ่งใส่อย่างรวดเร็ว และต้องยอมตัดใจขายเมื่อไม่เป็นเหมือนที่คิด “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น  TMB หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.44 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.52% ด้วยมูลค่า 699 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะรูปแบบที่ผ่านมาหุ้นแกว่งตัวในกรอบ 2.30-2.50 บาทเป็นเวลา 2 เดือนครึ่ง ช็อตนี้ถึงเป็นจังหวะวัดใจนักเล่นอีกครั้งเจ้าค่ะ

*ไหนๆ เม้าท์ถึงหุ้นที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับหันมามองม้าตีนปลายที่เริ่มติดเครื่องอย่างเช่น BEM เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจให้กับชีวิตสักหน่อย หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 8.10 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่า 1.85 พันล้านบาท แถมเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง บวกกับยอดเดิมอยู่แถว 9 บาท มันเป็นอะไรที่เย้ายวนใจดีเหลือเกินเจ้าค่ะ

*ทำนองเดียวกับหุ้น IVL วานนี้กระชากขึ้นมาปิดที่ 42.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่า 1.72 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ขาประจำต้องกระโจนเข้าใส่กันอยู่แล้ว เพราะมีแรงซื้อนำร่องเข้ามาเยอะกว่าปกติ จนหุ้นขึ้นมาทำ new high จึงเชื่อได้ว่า วันนี้น่าจะสร้างสถิติใหม่อีกครั้ง ส่วนจะทำสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่? อันนี้ขึ้นอยู่กับแรงซื้อจะหนาแน่นเพียงใด และมวลชนเห็นพ้องต้องกันขนาดไหนนะคะ

*ประเด็นดังกล่าวเทียบเคียงได้กับการย่อตัวเมื่อขึ้นมาชนแนวต้าน 9.20 บาทของหุ้น UV ก่อนจะไหลลงไปแตะแนวรับ 8.30 บาท ต่อจากนั้นทะยานขึ้น 4 วันซ้อน ก่อนจะลงเอ่ยที่ระดับ 9.80 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 5.95% ด้วยมูลค่า 607 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของบรรยากาศมันพาไปจริงๆ วันนี้ถึงเป็นโอกาสของพวกใจถึง กับพวกที่ถนัดเล่นเร็ว ..อิอิอิ

*เหมือนกับในรายของ JWD กระชากขึ้นมาปิดที่ 11.10 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 4.72 % ด้วยมูลค่า 360 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ต้องตามไปดูทุกเม็ด เพราะการกระชากขึ้นเที่ยวนี้มันเป็นอะไรที่น่าสนใจจริงๆ แถมเป็นการขยับขึ้นด้วยวอลุ่มที่หนาแน่นสุดๆ หุ้นถึงมีสิทธิ์กระชากขึ้นไปอีก เดี๊ยนถึงเม้าท์ได้แค่ว่า ถ้าไม่เล่นตามน้ำตอนนี้ แล้วจะไปเล่นตามน้ำตอนไหนล่ะค่ะ