สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 ก.ย.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นโบอิ้ง หลังจากบริษัทประกาศแผนเพิ่มการผลิตเครื่องบิน 787 Dreamliner ซึ่งช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่สาม อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดในเดือนส.ค. อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,203.48 จุด เพิ่มขึ้น 45.30 จุด หรือ +0.20% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,429.08 จุด ลดลง 31.10 จุด หรือ -0.48% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,495.62 จุด ลดลง 2.75 จุด หรือ -0.11%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลง กว่า 1.1% เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) จากแรงกดดันของสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเป็นอย่างมาก ภายหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 84.31 จุด หรือ -1.14% ปิดที่ 7,295.39 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้น เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) โดยตลาดได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ยอดขายรถยนต์ในสหภาพยุโรป (EU) ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนส.ค. อย่างไรก็ตาม แรงบวกได้ถูกสกัดลง หลังจากธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง หลังจากทางการจีนเปิดเผยว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลง
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 381.79 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,225.20 จุด เพิ่มขึ้น 7.61 จุด หรือ +0.15% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,540.45 จุด ลดลง 13.12 จุด หรือ -0.10% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,295.39 จุด ลดลง 84.31 จุด หรือ -1.14%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) เนื่องจากตลาดยังคงขานรับสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้ นอกจากนี้ IEA ยังระบุว่า อุปทานน้ำมันทั่วโลกปรับตัวลดลงในเดือนส.ค. อันเนื่องมาจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน “ฮาร์วีย์”
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 49.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ หรือตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 55.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้น เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดในเดือนส.ค. อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ระดับ 1,329.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.8 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 17.789 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2.30 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 980.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 19.40 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 914.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) ถึงแม้สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งเกิดคาดก็ตาม ขณะที่สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ส่งสัญญาณที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1918 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1885 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3400 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3202 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7990 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7984 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.53 เยน จากระดับ 110.51 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9642 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9647 ฟรังก์สวิส