TFD ไม่เห็นด้วยคำตัดสินโครงการ “มหาดเล็กฯ” จ่ออุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด
TFD ไม่เห็นด้วยคำตัดสินโครงการ "มหาดเล็ก เรสซิเดนท์" จ่ออุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด ชี้โครงการต้องชะลอลงเพื่อรอผลคำพิพากษา พร้อมยันไม่มีผลกระทบต่อบริษัท
ตามที่ปรากฎข่าวบนเว็บไซต์ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2560 กรณีที่ศาลปกครองกลางพิพากษาให้เพิกถอนมติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการมหาดเล็ก เรสซิเดนท์ ซอยมหาดเล็กหลวง 2 ซึ่ง บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD เป็นผู้ดำเนินการโดยเช่าที่ดินจากสำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง เนื่องจากดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ล่าสุด TFD ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ว่า บริษัทจะขอใช้สิทธิตามกฎหมายอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวร่วมกับเจ้าของที่ดินคือ สำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง ต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 30 วัน
ทั้งนี้ บริษัทยืนยันว่าได้ดำเนินการโครงการดังกล่าวตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ มีเอกสารพร้อมหลักฐานต่างๆ ครบถ้วน และคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมก็ได้พิจารณาอย่างรอบคอบเป็นอย่างยิ่งในการให้ความเห็นชอบกับรายงาน EIA ในครั้งนี้ จึงมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการพิจารณารายงาน EIA ของบริษัทฯ เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
นอกจากนี้ โครงการของบริษัทได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการขออนุญาตเช่นเดียวกับอาคารทุกอาคารที่ได้ปลูกสร้างอยู่บนที่ดินโฉนดแปลงเดียวกันกับที่ดินโครงการของบริษัท
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคำพิพากษาของศาลปกครองกลางออกมาเช่นนี้ โครงการก็ต้องชะลอลงเพื่อรอผลจากคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดก่อน แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับบริษัท เพราะระยะเวลาการเช่าก็ยังไม่ได้เริ่มต้นจนกว่าอาคารจะสร้างเสร็จ บริษัทยังคงมีสิทธิเป็นผู้เช่าที่ดิน
สำหรับโครงการมหาดเล็กเรสซิเดนท์เซสยังไม่ได้ทำการปลูกสร้างอาคาร เพียงทำการตอกเข็มได้เพียงแค่ไม่กี่ต้นเท่านั้นก็ได้หยุดการก่อสร้างไปตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.59 เป็นต้นมา จึงใช้เงินลงทุนไปกับการก่อสร้างโครงการเพียงเล็กน้อย
รวมทั้งไม่มีผลกระทบกับผลการดำเนินงานของบริษัทด้วย เพราะโครงการนี้เป็นเพียงโครงการหนึ่งในหลายโครงการของ TFD ที่เพียงแค่ชะลอโครงการออกไปเท่านั้นไม่ได้ยกเลิกโครงการ และที่สำคัญบริษัทฯ ไม่ได้นำเอาประมาณการของผลการดำเนินการของโครงการนี้เข้ามาในแผนการดำเนินการของบริษัทสำหรับปี 60-62
ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจในด้านอื่นๆ ของบริษัทยังเป็นไปตามปกติและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะการขายที่ดินโครงการนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการแบ่งโฉนดเพื่อขายที่ดินให้กับลูกค้า ทั้งนี้ โครงการนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 มีพื้นที่โครงการทั้งหมดรวม 841 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ขายประมาณ 630 ไร่ ด้านหน้ายาวขนานติดกับถนนมอเตอร์เวย์ถึง 4 กิโลเมตร มีทำเลเชื่อมต่อกับนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 1 โดยตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา อยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ และท่าเรือแหลมฉบัง และอยู่ในพื้นที่ EEC ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนอีกด้วย
ส่วนโครงการอสังหาริมทรัพย์ปลายปีนี้ TFD มีแผนที่จะเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมสูง 34 ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวมทั้งสิ้น 1,337 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 6,800 ล้านบาท ตั้งอยู่ย่านถนนรัชดาภิเษก ใกล้เส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT โดยเป็นโครงการที่ร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท คันทรี การ์เด้น กรุ๊ป ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งจากประเทศจีน และโครงการ The Harbour View Residents คอนโดมิเนียม 25 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ในย่านคลองเตย มูลค่าขายรวม 1.62 พันล้านบาท
โดยบริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาขายทั้งโครงการให้แก่นักลงทุนชาวไต้หวันไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และได้รับชำระเงินมัดจำแล้ว 256 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1.36 พันล้านบาท จะรับรู้ภายในวันที่ 30 มิ.ย.61 ซึ่งจะสนับสนุนภาพรวมตลอดครึ่งหลังปีนี้ไปจนถึงปี 61 ให้เติบโตต่อเนื่อง