CPF ไตรมาส 3/60 ปัจจัยบวกหนุนเพียบแนะซื้อหุ้น laggard เป้า 31.6 บ.

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(19 ก.ย.) ว่า Ipsos Business Consulting (อยู่ภายใต้ Ipsos ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดชั้นนำระดับโลก) คาดการณ์ปริมาณหมูในเวียดนามลดลงจาก 55 ล้านตัวในปี 2559 มาที่ 39.7 ล้านตัวใน 2560 และ 41 ล้านตัวในปี 2561 โดยปริมาณหมูส่วนเกิน (Excess supply) คาดจะลดลงจาก 7 ล้านตัวในปี 2559 เหลือ 2 แสนตัวในปีนี้และ 1 แสนตัวในปีหน้า (ตาม Figure 7) ซึ่งคาดจะทำให้ราคาหมูฟื้นตัว ทั้งนี้ราคาหมูเริ่มฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ 20,700 VND/กิโลกรัมในเดือน มิ.ย. มาที่ +/- 30,000 VND/กิโลกรัมในปัจจุบัน

การที่ราคาหมูในเวียดนามเริ่มฟื้นตัวคาดจะส่งผลให้ CPP ขาดทุนลดลงจากไตรมาส 2/60 ซึ่งจะสนับสนุนให้กำไรของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เติบโตดีขึ้นกว่า 30% เทียบไตรมาสก่อนหน้า (แต่ยังลดลง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

เนื่องจากฐานกำไรสูงในปีก่อน) ประกอบกับไตรมาส 3 เป็นไฮซีซั่นของธุรกิจกุ้งและธุรกิจส่งออก ราคาไก่และหมูยังอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ ได้แก่ ข้าวโพด และ กากถั่วเหลือง ยังอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนั้น คาดธุรกิจไก่ในตุรกีฟื้นตัวต่อเนื่องตามราคาไก่ที่ปรับตัวสูงขึ้น (เดือน ก.ค. +17% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ยังคาดว่าดอกเบี้ยจ่ายของ CPF จะลดลง เทียบไตรมาสก่อนหน้า หลังจากนำเม็ดเงินส่วนหนึ่งจากการเพิ่มทุนไปชำระคืนหนี้ในต่างประเทศ (คาดว่าจะเป็นอินเดีย รัสเซีย ตุรกี) ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า 10%

คาดธุรกิจหมูในเวียดนามขาดทุนลดลงจากราคาหมูที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ธุรกิจไก่ในตุรกีพลิกฟื้นหลังจากขาดทุนมา 6 ปี โดยภาวะ Oversupply คลี่คลายและต้นทุนลดลงหลังจากลดขนาดธุรกิจฟาร์ม เรายังคาดว่าธุรกิจสัตว์บกในรัสเซียเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ส่วนธุรกิจในประเทศไทยคาดธุรกิจกุ้งเติบโตจากการที่ปริมาณผลผลิตกุ้งเพิ่มขึ้น ปัญหาโรค EMS คลี่คลายลง การส่งออกไก่ยังมีแนวโน้มสดใสจาก Demand จากเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นคาด CPF จะได้ประโยชน์เต็มปีจากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามคือราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในปีหน้าว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด โดยคาดว่าราคาอาจปรับตัวขึ้นแต่ยังไม่ใช่ระดับต้นทุนที่สูงราคาหุ้น -8% YTD (รวม Dilution จากเพิ่มทุน) ซึ่งยัง laggard เมื่อเทียบกับ SET +8% YTD แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (SOTP) 31.60 บาท