เคาะแล้ว! AOTเหลือจ่ายย้อนหลังค่าเช่าที่”สุวรรณภูมิ”แค่ 1.4 พันลบ.-ตุนกำไรสะสมแสนล้าน!

เคาะแล้ว! AOT เหลือจ่ายย้อนหลังค่าเช่าที่สนามบิน "สุวรรณภูมิ" แค่ 1.4 พันลบ.-ตุนกำไรสะสม 9.80 หมื่นลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (20 ก.ย.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงกรณีการปรับอัตราค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุแปลงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต่อกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยระบุว่า ตามระเบียบกระทรงการคลังและกรมการบินพาณิชย์ (ปัจจุบัน คือ กรมท่าอากาศยาน) ว่าด้วยการให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ปัจจุบันคือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)) หรือ ทอท. ใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุที่อยู่ในความปกครองดูแลและใช้ประโยชน์ของกรมการบินพาณิชย์อันเกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิ พ.ศ.2545 ข้อ 6 ได้กำหนด รายละเอียดการใช้ที่ราชพัสดุแปลงท่าอากาศสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ไว้ว่า การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ประสงค์ที่จะใช้ที่ราชพัสดุในสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อใด ให้แจ้งการขอใช้ที่ราชพัสดุนั้นต่อกรมการบินพาณิชย์ และให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยทำความตกลงการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุกับกรมการบินพาณิชย์ โดยใช้แบบข้อตกลงตามท้ายระเบียบนี้ ซึ่งตามข้อตกลงการใช้ประโยชน์สนามบินสุวรรณภูมิฉบับลงวันที่ 30 กันยายน 2545 ได้กำหนดให้ ทอท. ใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุเพื่อใช้ดำเนินกิจการท่าอากาศยานมีกำหนดเวลา 30 ปี นับจากวันที่ระบุไว้ในข้อตกลงฯ

สำหรับการเรียกเก็บค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์และการดำเนินการเกี่ยวกับค่าตอบแทนตามนัยระเบียบกระทรวงการคลังและกรมการบินพาณิชย์ฯ พ.ศ.2545 ข้อ 16 นั้น ให้กรมธนารักษ์เรียกเก็บค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุจาก ทอท. ในอัตราร้อยละ 5 ของรายได้ทั้งหมดของ ทอท. อันเกิดจาก ทสภ. โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นในช่วงปีบัญชีนั้นๆ และภายหลังการใช้ประโยชน์ปีที่ 10 คือตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 ให้ปรับอัตราค่าตอบแทนดังกล่าวใหม่ตามผลการศึกษาของที่ปรึกษาที่จัดหาโดยกรมธนารักษ์

นอกจากนี้ในการประชุมคณะกรรมการทอท. ครั้งที่ 9/2560 เมื่อวันที่ 20 ก.ย.60 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการปรับอัตราค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุที่แปลงสุวรรณภูมิเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นไปตามบันทึกข้อตกลงฯ โดยมีรายละเอียดดังนี้ การคำนวณค่าตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี (รอบปีงบประมาณ 2556-2560) ให้คำนวณตามมาตรฐานของสัญญาเดิมปรับเพิ่มขึ้นตามค่าเฉลี่ยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Average Headline CPI) แต่หากบางปีที่การปรับดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปติดลบ ให้ปรับค่าดังกล่าวเป็นศูนย์ ซึ่งจะทำให้ ทอท.ต้องชำระค่าตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี ตามจำนวนเงินที่คำนวณโดยวิธีดังกล่าว ประมาณไม่เกิน 1.4 พันล้านบาท โดย ทอท. จะชำระค่าตอบแทนเพิ่มเติมให้แก่กรมธนารักษ์ภายในวันที่ 30 ก.ย.60

สำหรับปีงบประมาณ 2561-2565 ให้คำนวณค่าตอบแทนจากมูลค่าทรัพย์สิน (Return on Asset: ROA) เพิ่มเติมจากวิธีการส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) โดยแบ่งประเภททรัพย์สินเป็นทรัพย์สินที่เป็น Commercial จะคิด ROA ร้อยละ 3 ของมูลค่าทรัพย์สิน ส่วนทรัพย์สินที่เป็นพาณิชย์บริการ (Free Zone) จะคิด ROA ร้อยละ 0.01 ของมูลค่าทรัพย์สิน และพื้นที่ว่างเปล่าที่จะนำไปพัฒนาโครงการใหม่เฉพาะ Commercial จะคิด ROA ร้อยละ 2 ของมูลค่าทรัพย์สิน

ทั้งนี้ให้เริ่มใช้หลักเกณฑ์การคำนวณค่าตอบแทนแบบ ROA ในการกำหนดอัตราค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์เพิ่มเติม ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศง.2561 เป็นต้นไป โดยค่าตอบแทนเพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2561 เป็นเงินประมาณ 900.27 ล้านบาทต่อปี จากนั้นให้ปรับปรุงค่าตอบแทนร้อยละ 9 ของอัตราค่าตอบแทนเดิมทุก 3 ปี

 

โดยก่อนหน้านี้ กรมธนารักษ์จะมีการคิดค่าเช่าพื้นที่ราชพัสดุท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ  AOT ในอัตราใหม่ที่ปีละ 2,500 ล้านบาท โดยเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้ จากเดิมที่เก็บปีละ 1,500 ล้านบาท รวมทั้งจะมีการคิดค่าเช่าย้อนหลัง 5 ปี ระหว่างปี 2556-2560 รวมเป็นเงินประมาณ 4,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ “ผู้สื่อข่าว” ตรวจสอบพบว่า AOT มีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร ณ สิ้นงวดไตรมาส 3/2560 (เม.ย.-มิ.ย.60) สูงถึง 97,997 ล้านบาท จึงคาดว่าประเด็นดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ AOT 

ขณะที่ราคาหุ้น AOT ล่าสุด ณ เวลา 14.56 น. อยู่ที่ 59.50 บาท ลบ 1.50 บาท หรือ 2.46% สูงสุดที่ 60.75 บาท ต่ำสุดที่ 59.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.31 พันล้านบาท จากประเด็นดังกล่าวเป็นที่น่าจับตาว่าการที่ราคาหุ้น AOT ปรับตัวลงมาเช่นนี้ จะสามารถทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสู่ระดับปกติจากก่อนหน้านี้หรือไม่

Back to top button