IVL คาดอัตรากำไรปีนี้เพิ่มจากปีก่อน หลังดีมานต์ตลาดเพิ่ม

IVL คาดอัตรากำไรปีนี้เพิ่มจากปีก่อน หลังมองสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม อีกทั้งดีมานต์ตลาดเพิ่มขึ้น


บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ระบุว่า บริษัทคาดว่าอัตรากำไรในปีนี้เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) และการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรผลิตภัณฑ์โมโนเอทิลีนไกลคอล (MEG) ในสหรัฐอเมริกา ตลอดจนการควบรวมการใช้ผลิตภัณฑ์ PTA ในแคนาดา และการเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตในประเทศไทย จากการเข้าซื้อกิจการ PET ในบริษัท บางกอกโพลีเอสเตอร์ ในไทย อย่างไรก็ตามอัตรากำไรของ PTA ในทวีปเอเชียยังคงอ่อนแอ และคาดว่าจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นในปี 58-59

ขณะที่มองอุปสงค์ของตลาดอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น จากรายได้สุทธิที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค เนื่องจากราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่ลดลง ทำให้คาดว่าอุปสงค์ของผลิตภัณฑ์บริษัทจะเพิ่มขึ้น และอุปสงค์ของเส้นใยและบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ทดแทนวัสดุอื่นจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ในด้านปริมาณการผลิตของบริษัทในปีนี้จะเพิ่มขั้นราว 1 ล้านตัน ส่งผลให้ปริมาณการผลิตรวมทั้งปีนี้เท่ากับ 8.5 ล้านตัน ซึ่งเป็นผลจากการเสร็จสิ้นของการเข้าซื้อกิจการ และหากโครงการ Lion II แล้วเสร็จ ปริมาณการผลิตจะเพิ่มขึ้นอีก 700 กิโลตันด้วย

นอกจากนี้ยังคาดว่าต้นทุนต่อหน่วยจะลดลง จากอัตรากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และราคาค่าไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติที่ลดลงทั่วโลก รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ลดลงทำให้ต้นทุนค่าขนส่งรวมของบริษัทลดลงด้วย อย่างไรก็ตามการอ่อนค่าของเงินในประเทศอินโดนีเซีย แม็กซิโก ตุรกี โปแลนด์ ไทย และประเทศที่ใช้เงินยูโร ทำให้ต้นทุนแปลงสภาพซึ่งรายงานเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐลดลง เนื่องจากอัตรากำไรส่วนใหญ่สัมพันธ์กับเงินดอลลาร์สหรัฐ

ขณะเดียวกัน IVL ระบุว่าในปีนี้ Polyprima ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนที่ถือหุ้นอยู่ 43% นั้น อยู่ระหว่างการฟื้นฟูสภาพเครื่องจักรกลให้กลับมาอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ตามความต้องการที่กำหนดไว้ รวมทั้งมีการลงทุนในโรงงานผลิตไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุนดำเนินการ ซึ่งจะเริ่มเห็นผลในไตรมาส 4/58

นอกจากนี้บริษัทยังจัดทำแผนรายจ่ายฝ่ายทุนรวมปี 58-61 รวม 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยแบ่งเป็นการลงทุนเพื่อการเติบโต 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเพื่อบำรุงรักษาจำนวน 0.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในส่วนนี้เป็นรายจ่ายฝ่ายทุนที่ได้รับการอนุมัติแล้ว 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และรายจ่ายฝ่ายทุนที่พิจารณาเพิ่มเติม 0.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ

โดยแบ่งเป็นการลงทุนในปีนี้ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายเพื่อการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการ การขยายโรงงาน การปรับปรุงสายการผลิต และเพื่อการบำรุงรักษา ,ปี 59 จะลงทุน 0.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายเพื่อการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการ การลงทุนในกิจการร่วมทุน การปรับปรุงสายการผลิต และเพื่อการบำรุงรักษา

ส่วนปี 60 จะเป็นการลงทุน 0.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายเพื่อการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการ การลงทุนในกิจการร่วมทุน การปรับปรุงสายการผลิต และเพื่อบำรุงรักษา ส่วนในปี 61 จะลงทุน 0.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายเพื่อปรับปรุงสายการผลิต และเพื่อบำรุงรักษา

Back to top button