สังคมข่าวหุ้น
*ตลาดหุ้นไทยหลังจากที่ขึ้นติดต่อกันมานาน แรงซื้อจากฟันด์โฟลว์ก็เริ่มแผ่วลง แม้ตัวเลขส่งออกล่าสุดของไทยจะออกมาดีก็ตาม แถมปัจจัยภายนอกยังกดดัน หลังประธานาธิบดีทรัมป์ขู่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีเกาหลีเหนือ ทำเกิดความตึงเครียดกันทั่วโลก ส่งผลให้ดัชนีหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง รวมทั้งหุ้นไทยก็อาศัยเป็นจังหวะปรับฐาน ใครที่บอกว่าปีนี้จะไป 1,700 จุดก็คงต้องปรับตัวเลขกันใหม่ กรอบสัปดาห์นี้ 1650-1,675 จุด
เกียรติก้อง ว่องไวยากร
*ได้เวลาปรับฐาน
*ตลาดหุ้นไทยหลังจากที่ขึ้นติดต่อกันมานาน แรงซื้อจากฟันด์โฟลว์ก็เริ่มแผ่วลง แม้ตัวเลขส่งออกล่าสุดของไทยจะออกมาดีก็ตาม แถมปัจจัยภายนอกยังกดดัน หลังประธานาธิบดีทรัมป์ขู่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีเกาหลีเหนือ ทำเกิดความตึงเครียดกันทั่วโลก ส่งผลให้ดัชนีหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง รวมทั้งหุ้นไทยก็อาศัยเป็นจังหวะปรับฐาน ใครที่บอกว่าปีนี้จะไป 1,700 จุดก็คงต้องปรับตัวเลขกันใหม่ กรอบสัปดาห์นี้ 1650-1,675 จุด
*สัปดาห์ก่อนหุ้นลีสซิ่ง พาเหรดกันขึ้นตาม SAWAD ของธิดา แก้วบุตตา หลังจากที่ไปร่วมมือกับบีฟิท คาดว่ากลุ่มนี้จะยังคงเติบโตต่อไปอีก แถมมีลุ้นกนง.ลดดอกเบี้ยสัปดาห์นี้ ย่อมส่งผลดีต่อกลุ่มลีสซิ่ง ทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลง กำไรพุ่ง เย้ยกลุ่มแบงก์ที่นับวันจะหากินลำบากยากขึ้นทุกวัน
*หุ้น MTLS ภายใต้การนำของ ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง รวมทั้ง AMANAH และ THANI เกาะกระแสหุ้นศรีสวัสด์ขึ้นมาเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วย งานนี้มุมมองของนักวิเคราะห์มองว่าเป็นอาจเป็นเรื่องเก็งกำไรล้วนๆ บวกด้วยความหวังว่างบไตรมาสที่สามของกลุ่มนี้จะออกมาดีกว่ากลุ่มอื่น โดยเฉพาะแบงก์พาณิชย์
*ล่าสุด “สเปญ จริงเข้าใจ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล หรือ GCAP ลีสซิ่งขวัญใจชาวนาอีกตัวหนึ่ง ก็ออกมาได้จังหวะ มั่นใจว่ารายได้และกำไรสุทธิในปีนี้ จะเติบโตสูงกว่าปีก่อน โดยเฉพาะสินเชื่อรถเกี่ยวข้าวที่บูมมาก ตัวนี้ยังไม่มีใครให้ราคาเหมาะสม แต่ถ้าดูจากทรงก็ไม่เลวทีเดียว
*หุ้นกลุ่มแบงก์ ใกล้หมดไตรมาส 3 ก็มาลุ้นงบในเดือนหน้ากัน งานนี้ โดยเฉพาะแบงก์กรุงไทย ที่บริหารโดย ผยง ศรีวณิช เอ็มดีใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ที่เจอปัญหาเอ็นพีแอลรุมล้อมในช่วงที่ผ่านมาว่าจะตัดสินใจใส่สำรองเพิ่มมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งไทยพาณิชย์ ที่ อาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ออกมายืนยันว่าไม่มีตั้งสำรองพิเศษ PACE ตามใบสั่งของแบงก์ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ รอดูของจริงกันดีกว่า
*TRUE ของเฮียศุภชัย เจียรวนนท์ ถูกดึงร่วงหนัก หลังจากที่ DIF ประกาศเพิ่มทุน เนื่องจากทรูในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ต้องใส่เงินด้วย งานนี้เพิ่มทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท ผู้ถือหน่วยบางคนก็อาจจะไม่ประสงค์จะเพิ่มด้วย ยิ่งราคาคาดว่าจะต่ำกว่ากระดาน ตอนนี้ ราคาก็อาจจะไดลูทลงมาอีก แต่นักวิเคราะห์มองว่ายังอีกนานประมาณกลางปีหน้า ราคาพื้นฐาน 16.20 บาท
*หุ้นกลุ่มพลังงานยังมีทิศทางเชิงบวกรับอานิสงส์ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว แต่เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาปรับเพิ่มขึ้นมามาก ทำให้มีอัพไซด์น้อย เลยทำให้เกิดการปรับฐานขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มปตท. ที่มีหัวเรือใหญ่อย่าง เทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดใหญ่ บริษัท ปตท. ก็ยังต้องย่อลงมาก่อน ที่จะไปต่ออีกครั้ง
*จับตาประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือกนง. วันที่ 27 ก.ย.นี้ หลังจากที่วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ถูกกดดันอย่างหนัก ทั้งจากกระทรวงการคลัง และภาคเอกชน ให้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ หากมีเซอร์ไพรส์งานนี้ตลาดหุ้นดันทะลุแนวต้าน 1,700 จุดอย่างแน่นอน เนื่องจากมีหลายกลุ่มได้ประโยชน์
*หุ้นร้อนประจำวัน 22 ก.ย. 2560 ที่มีราคาและมูลค่าซื้อขายปรับขึ้นแรงและอยู่ระหว่าง (Trading Alert List) คือบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA, ใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 หรือ DNA-W1 ทำให้เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ต้องใช้เกณฑ์ Cash Balance (ซื้อขายด้วยเงินสดทั้งจำนวน) มีผลตั้งแต่ 25 ก.ย.-12 ต.ค. 2560 ขณะที่ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK, ใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 หรือ NOK-W1 มีผลตั้งแต่ 25 ก.ย.-03 พ.ย. 2560