SET ไซด์เวย์ เคาะ 10 บจ.เด็ด หุ้นกลาง-เล็กน่าเก็บ
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ โดยอาจมีแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันอ่อนตัว หุ้นหลักมีแนวโน้มพักฐาน ขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กมีโอกาสแกว่งตัวได้ดีกว่า โดยแนะนำให้เล่นหุ้นขนาดกลางที่คาดว่าจะมีผลประกอบการออกมาดี
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.35 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.38 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากดัชนีภาคบริการเดือน ก.ย. ของสหรัฐที่ทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 12 ปี ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ โดยอาจมีแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันอ่อนตัว หุ้นหลักมีแนวโน้มพักฐาน ขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กมีโอกาสแกว่งตัวได้ดีกว่า โดยแนะนำให้เล่นหุ้นขนาดกลางที่คาดว่าจะมีผลประกอบการออกมาดี หุ้นเด่นเลือก KBANK, MINT, KKP, TOP, ESSO, CPALL, CPN, BEAUTY, MBK และ TMB
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (5 ต.ค.) คาดว่าตลาดจะแกว่งไซด์เวย์ โดยอาจได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันในตลาดไนเม็กซ์ได้ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 เหรียญฯ/บาร์เรล ภายหลังจากที่ยอดส่งออกน้ำมันของสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น
วันนี้หุ้นหลักมีแนวโน้มพักฐาน แต่หุ้นขนาดกลางและเล็กจะแกว่งตัวได้ดีกว่า โดยแนะนำให้เล่นหุ้นขนาดกลางที่คาดว่าจะมีผลประกอบการออกมาดี ซึ่งวันนี้แนะนำหุ้น MBK และ TMB โดยแบงก์แรกที่จะประกาศงบฯไตรมาส 3/60 เป็น TISCO ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็แกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบมาก ทั้งในแดนบวกและลบ พร้อมให้ติดตามนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ส่วนทางยุโรปให้ติดตามรัฐกาตาลุญญา ที่จะแยกตัวเป็นรัฐอิสระ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,680 – 1,695 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ต.ค.) ว่า SET วันนี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหว sideways กรอบ 1,680 – 1,698 จุด รอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ วันศุกร์นี้ ขณะที่ภาพระยะสัปดาห์ยังมอง “บวก” ต่อไป ด้วยแนวต้าน 1,700 จุดเป็นเป้าหมายแรก และถัดไปที่ 1,740 จุด จาก 1) แรงซื้อกองทุน LTF ปลายปี 2) นักวิเคราะห์ปรับกำไร SET ขึ้นต่อเนื่อง และ 3) เศรษฐกิจเร่งตัวขึ้น
SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหว sideways หลังปรับสูงขึ้นแรง แต่ยังคาดว่ากลุ่มหุ้นที่กำไร 3Q17 ออกมาดีอย่างกลุ่มโรงกลั่น (TOP ESSO) และค้าปลีก (CPALL CPN BEAUTY) จะยังให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด รวมไปถึง Laggard Plays โดย SET ปรับสูงขึ้น 6.5% ตั้งแต่ทะลุแนวต้าน 1,590 จุด เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ราคาหุ้นปรับสูงขึ้นน้อยกว่าตลาด ได้แก่ KBANK (แม้กำไร 3Q17 ไม่ตื่นเต้น แต่กำไรปี 2018 เร่งตัว +17% yoy), TOP (กำไร 3Q17 แข็งแกร่ง ค่าการกลั่นสูง) MINT (เข้าสู่ช่วง High Season ปลายปี) KKP (ผลดีดอกเบี้ยต่ำ ธุรกิจหลักทรัพย์ฟื้นตัว)
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ต.ค.) วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,670 – 1,675 จุด หากยืนได้เน้นถือพอร์ตการลงทุน และขายทำกำไรบางส่วนหากดัชนีปรับตัวขึ้นสูงกว่าระดับ 1,700 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร TPIPP ( [email protected] ) จากปัจจัยบวก สผ. ให้ความเห็นชอบ EHIA โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนขนาด 150 MW.