ACAP พลั้งปาก เสียราคา
ปี 2560 ถือเป็นปีชงสำหรับคนถือหุ้นของบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP เพราะมีเหตุให้ราคาหุ้นย่ำแย่หลายระลอก
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
ปี 2560 ถือเป็นปีชงสำหรับคนถือหุ้นของบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP เพราะมีเหตุให้ราคาหุ้นย่ำแย่หลายระลอก
ราคาหุ้นที่ย่ำแย่ ช่างสวนทางกับผลประกอบการเสียชนิดหาเหตุผลไม่ได้
รายได้ครึ่งแรกของปีนี้ ACAP ทำได้ดีเกินคาด 383.58 ล้านบาท เทียบกับทั้งปีของปี 2559 ที่ 421.35 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิทำได้ดีกว่าหลายเท่า เพราะครึ่งแรกปีนี้ ปาเข้าไปถึง 164.52 ล้านบาท เทียบกับตลอดปีของปีก่อน 174.33 ล้านบาท….ใครว่าธรรมดาให้รู้กันไป ไม่บ้าก็เมา
กำไรสุทธิที่โดดเด่น สะท้อนคุณภาพของธุรกิจปล่อยสินเชื่อด้วยเงินที่กู้มาดีเยี่ยม ให้กับธุรกิจที่เข้าไปถึงระบบธนาคารพาณิชย์ตามปกติ เพราะอัตรากำไรสุทธิที่โดดเด่น 42.85% สะท้อนการหาลูกค้าที่เก่งฉกาจ ….และการควบคุมคุณภาพหนี้ที่เด่นดีหาตัวจับยาก ภายใต้ฝีมือของ นางสาวสุกัญญา สุขเจริญไกรศรี หรือ น้องเค้ก ซีอีโอหญิงเก่ง และขยัน
ราคาหุ้นที่ต่ำเตี้ยจนกระทั่งเป็นข่าวเพราะทำให้พี/อีล่าสุดของ ACAP ร่วงมาที่ระดับ “ชวนยื้อ” แถว 19.30 บาทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีคำอธิบายว่า มาจากข่าวร้ายหลายระลอก
เริ่มตั้งแต่ข่าวร้ายของลูกค้าสินเชื่อที่เป็นนิติบุคคล บริษัท โอริออน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออก ซึ่งกู้เงินจำนวน 300 ล้านบาท ในปลายปี 2559 โดยที่ทางลูกค้ารับเงินไปบางส่วนก้อนแรก โดยคิดดอกเบี้ยกู้ยืมที่ 12% ต่อปีทันที แต่มีผู้ถือหุ้นบางคนของลูกค้าดังกล่าว ออกโรงตั้งข้อกล่าวหาว่า ACAP ยักยอกทรัพย์และปลอมแปลงเอกสาร โดยเฉพาะหุ้นที่นำไปจำนำยังอยู่ในชั้นกระบวนการพิจารณาของทางศาล จึงแจ้งต่อ ก.ล.ต. เพื่อขอให้ตรวจสอบสัญญาเงินกู้ที่มีผู้ถือหุ้นอีกฝ่าย เป็นผู้ยื่นกู้
ข้อกล่าวหาดังกล่าว ทำให้ราคาหุ้น ACAP ไปต่อไม่ไหวนานพอสมควร แม้จะชี้แจงต่อมาว่าเรื่องจบลงแล้วเรียบร้อย ไม่ได้มีปัญหาอะไร…. ก่อนที่จะมาเจอประเด็นใหม่เมื่อ คณะกรรมการ ACAP มีมติยกเลิกการเพิ่มทุน แต่เปลี่ยนมาให้วอร์แรนต์แทนเป็น ACAP-W2 ในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยวอร์แรนต์
เหตุผลที่ออกวอร์แรนต์ก็เข้าใจได้ว่า ต้องการเก็บรักษาเงินกำไรสะสมเอาไว้เพื่อไม่ให้ส่วนผู้ถือหุ้นลดลง เพราะบริษัทยังต้องก่อหนี้เพื่อการเติบโตอีกมากในระยะยาว
เงื่อนไของวอร์แรนต์ดีต่อคนถือหุ้นมาก เพราะนอกจากแจกฟรีแล้ว ราคาแปลงสิทธิก็ดีเยี่ยม แค่ 6 บาทต่อหุ้นใหม่ เท่านั้นเอง ….คิดสะระตะแล้ว เทียบเท่าจ่ายปันผลกลายๆ ประมาณ 3 บาทต่อหุ้น ใครว่าไม่ดี เอามาให้เลย….ยินดีรับเสมอ
ไม่รู้เป็นเพราะตีความไม่ออกกันหรืออย่างไร…. ของดี หรือเจตนาดี ถูกแปรความหมายเชิงลบนับตั้งแต่ขึ้นเครื่องหมาย XW วันแรก ราคาร่วงหลุดมาใต้ 20.00 บาท มาจนถึงวันนี้
ไม่เคยกลับขึ้นไปได้อีก จริงจัง
แม้กระทั่งวันที่วอร์แรนต์ ACAP-W2 เข้ามาเทรดไปแล้วก็ตาม
การนำเสนอข่าวดีของ ACAP ในเรื่องการเติบโตของสินเชื่อ และการขายหุ้นกู้ใหม่ของปีนี้ เพื่อเพิ่มฐานเงินปล่อยสินเชื่อ จึงไม่ค่อยมีประโยชน์หรือช่วยราคาหุ้นมากมายอะไรนัก
ที่สำคัญ ราคา ACAP-W2 กลับแน่นิ่งใต้ 13.00 บาท ซึ่งถือว่าฉุดรั้งราคาหุ้นสามัญหรือ หุ้นแม่ ไม่ให้เดินหน้าต่อไปไหนได้ เพราะหากลบด้วย 6.00 บาท ที่เป็นค่าแปลงสิทธิแล้ว ราคาหุ้นแม่ ACAP แพงเกินเสมอ
กลายเป็น อนุชาตบุตร ….ลูกถ่วงแม่ไปเสียนี่…..เง็งงงงง
กว่าจะมาถึงบางอ้อก็เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก็เมื่อน้องเค้กออกมาแจ้งข่าวล่าสุดว่า หลังจาก ACAP สามารถขายหุ้นกู้ล่าสุดครั้งที่ 3/60 มูลค่า 500 ล้านบาท อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี (ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2562) ซึ่งจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ และมีสำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมไว้อีก 300 ล้านบาท) สำเร็จลุล่วงด้วยดี จะกลับมาปล่อยก็ได้ตามปกติ
น้องเค้ก อ้อมแอ้มอธิบายไม่เต็มปากเต็มคำว่า “…หลังจากตลาดตราสารหนี้มีการชะลอตัวไปบ้าง เป็นผลมาจากตลาดโดยภาพรวมที่มีความผันผวน ด้วยนโยบายของภาครัฐที่มีการลดอัตราดอกเบี้ยลง ผู้ฝากเงินที่เคยได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากจะได้รับผลกระทบพอสมควร จึงต้องมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เช่น ฟิกซ์ อินคัม ซึ่งเป็นรายได้ดอกเบี้ยที่สามารถคาดคะเนได้”
แถมยังพาซื่อบอกอีกว่า…ในช่วงที่ผ่านมา ที่มีบริษัทลูกหนี้บางบริษัทที่ไม่สามารถชำระเงินคืนได้ตามกำหนด บริษัทได้บังคับทรัพย์มาแล้วบางส่วน และอยู่ระหว่างบังคับอีกรอบหนึ่ง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ขายทอดตลาด เพราะต้องรอจังหวะเวลา
พูดอ้อมโลกอย่างนี้ก็จะบอกใบ้แค่ว่า โอกาสที่กำไรไตรมาสสามจะหดตัวลง…ย่อมเป็นไปได้
แม้ไม่บอกตรงๆ นกรู้ (พันธุ์ไหนก็ช่างมันเถอะ…ไม่สำคัญหรอก) ก็พอคาดคะเนว่า มีการชะงักปล่อยสินเชื่อชั่วคราว เพราะปัญหาขายหุ้นกู้ไม่ทัน หรือสะดุด….ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุไหนก็ตาม
มิน่า…..ช่วงหลังนี้ เงียบเป็นพระเตมีย์ใบ้เชียวนะ น้องเค้ก
ข้อมูลที่ออกมาซึ่งถูกถอดรหัสแล้ว ทำให้กลบข้อมูลอื่นเช่น 1) ปีนี้พอร์ตสินเชื่อน่าจะอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท หรือใกล้เคียง 2) ฐานกำไรของบริษัทที่จะค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มาจากรายได้ค่าธรรมเนียม รายได้ค่าบริการจากบริษัทในเครือ 3)การเตรียมตัวยื่นไฟลิ่งบริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (บริษัทลูก) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการคอลเซ็นเตอร์ และการติดตามหนี้ …..จนมิดไปเลย
ราคาหุ้น ACAP ที่ทำท่าทะยานไปเหนือ 20.00 บาท โรยตัวเพราะแรงขายกระหน่ำทันทีนับแต่วันพุธที่ผ่านมาจนถึงวันศุกร์ ….ปิดไม่วายที่เขตขายมากเกินเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป
ที่ร้ายกว่านั้น หุ้นลูกอย่าง ACAP-W2 ก็ไม่หือไม่อือต่อไปตามปกติ ที่ระดับ 12.90 บาท ถูกกว่าแม่ตามเคย…ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
นิทานเรื่องนี้ สอนว่า …..ชอบพูดอ้ำอึ้ง เวลาไม่มีเรื่องดี…สู้ไม่พูดเสียเลย ยังจะดีกว่า
อิ อิ อิ