1,700 ครั้งที่ 1

*ก่อนอื่น “โมนิก้า” ขอตั้งคำถามใส่บรรดาแมงเม่าสายฮาร์ดคอร์ เพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสในการเม้าท์จนน้ำลายแตกฟอง เพราะรูปแบบการเคลื่อนตัวของดัชนีในเที่ยวนี้บอกอะไรหลายอย่างให้รู้ เดี๊ยนก็เลยถามบรรดานักเล่นว่า  สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยวานนี้บอกอะไร? ซึ่งเป็นประเด็นที่เดี๊ยนจะขอลากยาวตั้งแต่ต้นยันจบพารากราฟสุดท้ายนะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนอื่น “โมนิก้า” ขอตั้งคำถามใส่บรรดาแมงเม่าสายฮาร์ดคอร์ เพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสในการเม้าท์จนน้ำลายแตกฟอง เพราะรูปแบบการเคลื่อนตัวของดัชนีในเที่ยวนี้บอกอะไรหลายอย่างให้รู้ เดี๊ยนก็เลยถามบรรดานักเล่นว่า  สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยวานนี้บอกอะไร? ซึ่งเป็นประเด็นที่เดี๊ยนจะขอลากยาวตั้งแต่ต้นยันจบพารากราฟสุดท้ายนะจะบอกให้

*เนื่องจากมีหลายเรื่องปูดออกมาให้เห็นเรื่อยๆ แถมหุ้นบางตัวเริ่มเซให้เห็นอย่างชัดเจน “โมนิก้า” จึงขอใช้จังหวะนี้บรรยายเรื่องราวที่ทำให้เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น ซึ่งเรื่องแรกที่อยากเม้าท์สุดคงเป็นอาการของดัชนีที่พุ่งขึ้นไปถึงระดับ 1,700.75 จุด หลังจากนั้นมีแรงเทขายออกมาตลอดทั้งวัน จนสุดท้ายลงมาปิดที่ 1,692.22 จุด ลบไป 3.75 จุด ด้วยมูลค่า 4.79 หมื่นล้านบาท ในทางจิตวิทยาเขาเรียกว่า ใจฝ่อนะคะ

*ถึงกระนั้นในมุมของสัญญาณเทคนิคก็ไม่มีอะไรเสียหาย เพราะตลาดหุ้นเข้าเขตซื้อมากเกินไปมาระยะหนึ่ง ประกอบกับเป็นการทดสอบแนวต้าน 1,700 จุดครั้งที่ 1 จึงมีแรงเทขายออกมาเพื่อทดสอบกำลังใจของผู้เล่นว่ายังคงเหนียวแน่นไหม? ผลปรากฏว่า กองทุนตัวแสบ กับ ปอบผีฟ้า เปิดตูดแน่บก่อนใครเพื่อนแบบนี้ เดี๊ยนมองว่า ดัชนีมีโอกาสทรุดตัวลงอีกเจ้าค่ะ

*เหตุผลที่ทำให้เดี๊ยนปักใจเชื่อเช่นนั้นมาจากตามตำราที่เรียนมาจากเมืองนอกเมืองนา เขาอธิบายวงรอบของการไต่เพดานว่า มักเกิดขึ้นทั้งหมด 3 รอบด้วยกัน ซึ่งการขึ้นรอบที่ 1 เป็นการทดสอบแรงขาย การขึ้นรอบที่ 2 เป็นการทดสอบแรงซื้อ ส่วนการขึ้นรอบที่ 3 เป็นการเปลี่ยนฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม “โมนิก้า” จึงขอทำตัวเป็นผู้รู้สักหนึ่งวัน ขืนไม่พูดออกไปมีหวังจุกอกตาย (หนูคัพ F พูดแล้วจะหาว่าคุย)..อิอิอิ

*ประเด็นนี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันไปมองแนวรับถัดไปที่รออยู่ด้านล่างบริเวณ 1,682 จุดในทันที เพราะเป็นแนวรับที่เกาะกับเส้น 10 วัน แถมในช่วงหนึ่งเดือนที่ดัชนีอยู่ในจังหวะขาขึ้น และมีการพักฐานให้เห็นเป็นระยะ ดัชนีก็ลงมายืนอยู่ที่เส้นนี้เป็นประจำ เดี๊ยนถึงไม่วอรี่กับการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนี เพราะมันยังไม่มีจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เดี๊ยนรู้สึกไม่สบายใจนะซี

*เห็นได้จากในรายของ WHA ที่ล่าสุดปรับตัวลดลงมาปิดที่ 3.54 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือ 1.67% ด้วยมูลค่า 236.29 ล้านบาท สวนกระแสข่าวดีที่มีมาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ ถึงแม้ผู้บริหารจะออกมาการันตียอดขายที่ดินตามเป้าที่วางไว้ 1.4 พันไร่ แถมด้วยพร้อมเปิดโครงการ EEC ใหม่ปีหน้าทันที ปัจจัยบวกแน่นขนาดนี้ “โมนิก้า” ก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเหมือนกันนะเจ้าค่ะว่าที่หุ้นมันไม่ขึ้นน่ะเพราะมันเกิดจากอะไร

*เช่นเดียวกับ ACAP ที่ช่วงนี้หยิบจับอะไรก็ดูดีไปหมด ยอดปล่อยสินเชื่อก็โตกระฉูดมีแววว่าจะทำได้ดีทะลุเป้า 6 พันล้านบาท ไหนจะกำลังประคบประหงมลูกรักอย่าง “โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์” ที่หวังปั้นเข้าตลาดฯเร็วๆ นี้ ด้วยปัจจัยหนุนอัดแน่นครบเครื่องแต่ราคายังร่วงไม่หยุด จนมาปิดที่ 17.90 บาท ลบไป 1.40 บาท หรือลงไป 7.25% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 233.13 ล้านบาท

*อีกรายที่มาในรูปแบบเดียวกันอย่าง SUPER ล่าสุดหลุดแนวรับสำคัญที่ 1.30 บาทจนได้ มาปิดที่ 1.28 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 1.54% ด้วยมูลค่า 127 ล้านบาท ถือว่ายังเป็นหุ้นที่อยู่ในขาลงมาต่อเนื่อง แม้จะมีข่าวดีเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งอัพแผนขยายโครงการสร้างอนาคตไม่ขาดสายกับผลประกอบการที่ยังดูดี ทำให้เดี๊ยนออกอาการมึนตึ้บไม่รู้ว่าปัญหาที่เกิดมันมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนหรืออะไรกันแน่นะเจ้าคะ

*ด้าน GL ที่วานนี้ได้เห็นราคาหุ้นเคลื่อนไหวแบบสุดสวิงริงโก้อีกครั้ง ในการซื้อขายระหว่างวันราคาทะยานไปแตะจุดสูงสุดที่ 25.25 บาท แต่จนแล้วจนรอดก็ถูกเทขายลงมาต่อเนื่อง ล่าสุดปิดตลาดที่ 22.50 บาท ลบไป 2.40 บาท หรือ 9.64% ด้วยมูลค่า 938.72 ล้านบาท เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่อะไรสำหรับโมนิก้า เพราะลักษณะการลากขึ้นไปที่จุดสูงสุดแล้วลงมาปิดที่จุดต่ำสุดแบบนี้มีให้เห็นจนชินเหมือนอาการเดจาวู….อิอิ

*สำหรับในรายของ UV ที่ราคาหุ้นยังปรับตัวลงต่อเนื่อง ล่าสุดมาปิดที่ 9.60 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่า 262 ล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นเรื่องธรรมดาของหุ้นตัวนี้ที่ขึ้นแรงแล้วก็ต้องลงแรง การเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ “โมนิก้า” มองว่าคงจะถึงเวลาหมดรอบกันสักที หากแมงเม่ารายไหนหูไม่ไวตาไม่ไวพอ คงจะต้องเจ็บตัวกันไปตามระเบียบนั่นล่ะเจ้าค่ะ

*ตบท้ายด้วยน้องใหม่ในรายของ AQ ที่กลับลงสนามวันนี้เป็นวันแรกในรอบ 2 ปี หลังถูกขึ้น SP นานเสียจนเกือบจำไม่ได้ เปิดตลาดได้สวยหรูดูแพง พุ่งขึ้นไปสูงสุดถึง 0.31 บาท จากราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายอยู่ที่ 0.22 บาท แต่ก็ไปได้เท่านั้น เพราะเจอแรงขายเข้ามาอย่างทะลักทะลวง ล่าสุดถูกทุบลงไปอยู่ที่ 0.11 บาท ลบไป 0.11 บาท หรือ 50% ด้วยมูลค่า 2.16 พันล้านบาท เห็นแบบนี้แล้ว “โมนิก้า” ก็ได้แต่เอาใจช่วยให้ออกมากางแผนธุรกิจเรียกความเชื่อมั่นให้นักลงทุนในเร็ววันยังไงล่ะเจ้าค่ะ…..

Back to top button