สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2560


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพปรับตัวลง หลังจากมีรายงานว่า บริษัทอเมซอนดอทคอม อิงค์ กำลังพิจารณาการลงทุนในธุรกิจเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และซิตี้กรุ๊ป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,761.07 จุด ลดลง 12.60 จุด หรือ -0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,544.73 จุด ลดลง 4.60 จุด หรือ -0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,579.73 จุด ลดลง 10.45 จุด หรือ -0.16%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสเปน หลังจากมีรายงานว่า ประชาชนชาวคาตาลันในแคว้นกาตาลุญญาได้ออกมาประท้วงเพื่อคัดค้านการแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีขยายตัวได้ดีเกินคาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 390.21 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,365.83 จุด เพิ่มขึ้น 5.93 จุด หรือ +0.11% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ระดับ 12,976.40 จุด เพิ่มขึ้น 20.46 จุด หรือ +0.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,507.89 จุด ลดลง 14.98 จุด หรือ -0.20%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีรายงานว่านางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมปรับคณะรัฐมนตรี โดยมีแนวโน้มว่านายบอริส จอห์นสัน รมว.ต่างประเทศ อาจถูกปลดออกจากตำแหน่ง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,507.89 จุด ลดลง 14.98 จุด หรือ -0.20%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กำลังหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 49.58 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 55.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี และการที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทอ่อนแรงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 10.10 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ระดับ 1,285.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 18.1 เซนต์ หรือ 1.08% ปิดที่ 16.971 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 918.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 928 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากมีรายงานว่านางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมปรับคณะรัฐมนตรี โดยมีแนวโน้มว่านายบอริส จอห์นสัน รมว.ต่างประเทศ อาจถูกปลดออกจากตำแหน่ง

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1749 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1733 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3153 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3066 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7760 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7785 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 110.66 เยน จากระดับ 110.73 เยน ขณะที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9799 ฟรังก์ จากระดับ 0.9785 ฟรังก์

Back to top button