บลูชิพมาเต็ม
*เดิมที “โมนิก้า” ต้องการจะเม้าท์ถึงเรื่องของ เฮีย อ. หัวเรือใหญ่ของแบงก์สีม่วง เพราะมีเรื่องราวราวมากมายที่สังคมจอมเผือกอยากรู้อยากเห็นมากมาย บวกกับวีรกรรมของพ่อหนุ่มรายนี้ชอบทำอะไรที่ไต่บนเส้นลวดเป็นประจำ จึงมีข่าวสารหลายอย่างไหลเข้ามาหาเดี๊ยนเป็นจำนวนมาก จนนึกไม่ถึงว่า มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ? แต่เผอิญบรรยากาศการลงทุนวานนี้เขียวสดใสซาบซ่าเหลือเกิน จึงขอยกยอดเม้าท์ถึงพ่อตัวดีไปเป็นวันหน้านะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*เดิมที “โมนิก้า” ต้องการจะเม้าท์ถึงเรื่องของ เฮีย อ. หัวเรือใหญ่ของแบงก์สีม่วง เพราะมีเรื่องราวราวมากมายที่สังคมจอมเผือกอยากรู้อยากเห็นมากมาย บวกกับวีรกรรมของพ่อหนุ่มรายนี้ชอบทำอะไรที่ไต่บนเส้นลวดเป็นประจำ จึงมีข่าวสารหลายอย่างไหลเข้ามาหาเดี๊ยนเป็นจำนวนมาก จนนึกไม่ถึงว่า มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ? แต่เผอิญบรรยากาศการลงทุนวานนี้เขียวสดใสซาบซ่าเหลือเกิน จึงขอยกยอดเม้าท์ถึงพ่อตัวดีไปเป็นวันหน้านะคะ
*ย้อนกลับมาดูที่บรรยากาศการลงทุนสักนิดหนึ่งดีกว่า เพราะการดีดตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงภาคบ่าย ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,706.95 จุด บวกไป 14.73 จุด ด้วยมูลค่า 8.14 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ปิดตลาดภาคเช้าทรุดตัวลงในยืนในแดนลบ ทุกคนลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า เกิดจากบิ๊กตู่เคาะวันเลือกตั้งในเดือน พ.ย. 61 ซึ่งทำให้ภาพต่างๆ ชัดเจนไงล่ะค่ะ
*ตรงนี้เป็นประเด็นที่ทำให้ฝรั่งตาน้ำข้าวกลับมาไล่ซื้อหุ้นมากถึง 2.31 พันล้านบาท ส่วนกองทุนตัวแสบก็อาศัยเรื่องดังกล่าวเป็นตัวบิ้วท์อารมณ์เช่นกัน วานนี้ถึงปรากฏยอดซื้อสุทธิมากถึง 1.83 พันล้านบาท ขณะที่แมงเม่าฉวยโอกาสเทขายทำกำไรไปมากถึง 4.54 พันล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้รู้ว่า การขึ้นเที่ยวนี้เป็นผลทางจิตวิทยาล้วนๆ นะจะบอกให้
*นั่นหมายความว่า น่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยมากขึ้นอีก และหุ้นเป้าหมายที่จะถูกดันสุดลิ่มทิ่มประตูคงหนีไม่พ้นบลูชิพ เพราะมีสเปกตรงตามความต้องการของนักลงทุนสถาบัน “โมนิก้า” ถึงมองเห็นการเคาะขวารัวๆ เกิดขึ้นอีกหนึ่งครั้ง และทำให้เดี๊ยนต้องกลับไปเผาตำราสัญญาณเทคนิคที่เล่าเรียนมา หลังดัชนีตีกลับก่อนเวลาที่มองไว้ แถมเป็นการฉีกแนวต้าน 1,700 จุดกระจุยแบบนี้..มันพะยะค่ะ
*โดยเฉพาะการไล่ราคา PTT จนขึ้นมาปิดที่ 428 บาท บวกไป 10 บาท ด้วยมูลค่า 3.29 พันล้านบาท เดี๊ยนบอกได้ทันทีว่า ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ให้เสียเวลาเคาะขวา เพราะเป็นที่รู้กันมานานแล้วว่า เงินมาผ้าหลุด..อุ๊ย..เงินมาหุ้นกระฉูด “โมนิก้า” ถึงอยากให้บรรยากาศการลงทุนเป็นตัวเล่าเรื่องทั้งหมดเอาเอง หรือถ้าต้องการเห็นภาพชัดๆ ให้กดกราฟราคาหุ้นดูนะคะ
*ส่วนในรายของ TOA เข้าเทรดถูกจังหวะพอดี ก็เลยได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ ราคาหุ้นก็เลยพุงกระฉูดอย่างร้อนแรง วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 32.50 บาท บวกไป 8.50 บาท หรือขึ้นไป 35.40% ด้วยมูลค่า 1.25 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพที่ทำให้เดี๊ยนรู้สึกเมามันในอารมณ์จริงๆ เพราะการวาง Bid-Offer แต่ละช่องมันไม่ธรรมดา หุ้นก็ยังวิ่งขึ้นมาได้เรื่อยๆ วันนี้ถึงต้องดูกันอีกทีว่า ไปต่อไหม?
*เหมือนกับในรายของ CBG ทำท่าจะไปไม่ไหวช่วงปลายเดือนที่แล้ว แต่พอเริ่มต้นกลับทะยานขึ้นต่อเนื่อง จากหุ้นที่เคยมีราคาค่างวดอยู่ที่ 70 บาท ล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 94 บาท บวกไป 7.50 บาท หรือขึ้นไป 8.70% ด้วยมูลค่า 1.46 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของความเชื่อมั่นที่มีอย่างล้นปรี่ ถึงไล่ราคาหุ้นแบบไม่กลัวตาย เพราะเชื่อกันว่า ผลงานในครึ่งปีหลังจะออกมาดีใช่ม่ะ! ถ้าเชื่อแบบนั้นจริงๆ ก้เชิญลุยกันเต็มที่เจ้าค่ะ
*อีกหนึ่งตัวอย่างที่สามารถเทียบเคียงได้เป็นอย่างดี “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้น TCAP เพราะเป็นหุ้นที่มากับกองทุนจริงๆ เพราะเมื่อ 4 ปีก่อนหุ้นที่ขึ้นไปถึง 50.25 บาท ล้วนเกิดจากแรงซื้อที่ถาโถมเข้ามาเป็นจำนวนมาก พอถึงบทเลิกเล่นแบบดื้อๆ ราคาหุ้นก็ไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับแกว่งตัวออกด้านข้างมาระยะหนึ่ง ล่าสุดหุ้นขึ้นมาปิดที่ 51.25 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่า 1.14 พันล้านบาท เดี๊ยนเม้าท์ได้แค่ว่า P/E 9 เท่ามันยั่วใจกองทุนขนาดไหน? ลองถามใจเธอดูนะคะ
*เช่นเดียวกับ PTTGC IRPC TOP ล้วนอยู่ในทิศทางขาขึ้นเหมือนกันหมดทุกตัว และที่น่าสนใจก็คือ การเคลื่อนตัวของหุ้นเป็นลักษณะทะยานขึ้นแบบ 45 องศา ซึ่งมันตีความได้ว่า หุ้นมีโอกาสไปต่อได้อีก เพราะแรงซื้อที่เข้ามาพรวดพราดในเที่ยวนี้ มันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า ราคาหุ้นควรจะสูงกว่าที่เป็นอยู่ บวกกับในบางวันมีการเคาะขวาเบาๆ ให้เห็นตลอดเวลาอีกด้วยแบบนี้ ตามน้ำไปเลยดีกว่านะจะบอกให้
*เหมือนกับในรายของ PRM หากดูตามรูปการณ์ที่เกิดขึ้นจะเห็นว่า กรอบการเคลื่อนไหวของหุ้นอยู่ในระดับ 10.60-11.70 บาทเป็นเวลาหลายวัน ส่งผลให้คนที่เข้ามาเล่นตามกรอบราคาดังกล่าว รับกำไรกันอย่างถ้วนหน้าเลยทีเดียว ล่าสุดหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 12 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือลงไป 7.15% ด้วยมูลค่า 191 พันล้านบาท มันเป็นการเปลี่ยนกรอบเล่นใหม่หรือเปล่า? วันนี้ต้องติดตามดูให้ดีๆ นะคะ