ตลท.ดันบจ.ร่วมโครงการ CVC ส่งเสริม-พัฒนาธุรกิจ “Startup” หนุนรากฐานเศรษฐกิจไทย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชิญบจ.ที่ร่วมโครงการ CVC สร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนข้อมูล พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจ "Startup" ขยายการเติบโตเพื่อเป็นรากฐานเศรษฐกิจไทยในอนาคต


นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เชิญบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มี Corporate Venture Capital: CVC ที่ลงทุนในธุรกิจ Startup ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจที่มีนวัตกรรมและแนวคิดสอดคล้องกับการดำเนินงานของบริษัทเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า บริการ และกระบวนการทำงานของธุรกิจ มาร่วมสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนข้อมูล พบปะพูดคุย

ตลอดจนจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้าง Startup เช่น การจัดอบรม และสัมมนา พร้อมหารือร่วมกันในการปรับปรุงกฎเกณฑ์ ตลอดจนนโยบายภาครัฐเพื่อสนับสนุนระบบนิเวศน์ในประเทศไทย และร่วมกันจัดตั้งชมรมซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการร่วมกันสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจ Startup ในวงกว้างให้สามารถเข้าถึงบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ สร้างพันธมิตรเพื่อขยายการเติบโต

“บริษัทจดทะเบียนที่มีการลงทุนใน Venture Capital: VC อยู่แล้วหรือบริษัทที่กำลังอยู่ระหว่างศึกษาการจัดตั้ง VC ก็สามารถแจ้งความประสงค์ในการเข้าร่วมชมรมบริษัทจดทะเบียนผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Listed Corporate Venture Capital Club) สอดคล้องกับแผนงานสำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจ Startup เติบโตและเป็นรากฐานเศรษฐกิจไทย” นางเกศรา กล่าว

นอกจากการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจ Startup โดยการสนับสนุนจากบริษัทจดทะเบียนแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนา “LIVE” platform ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อยตลาดหลักทรัพย์ฯ ในชื่อ บริษัท ไลฟ์ฟินคอร์ป จำกัด เพื่อเชื่อมโยงการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมถึงการร่วมลงทุนใน Startup และ SMEs รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนทั้ง VC,CVC สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือ

อนึ่งปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจ Startup ในประเทศไทยมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการสำรวจของสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ พบว่าปี 2560 มีการเพิ่มขึ้นของ Startup กว่า 8,000 ราย ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ได้นำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยี มาช่วยเพิ่มความสะดวก สร้างมูลค่าให้แก่สินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ ซึ่งนอกเหนือจากแนวคิดในการพัฒนาสินค้าและบริการแล้ว การเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างสะดวกยังเป็นส่วนสำคัญในการเสริมการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

Back to top button