PTT แจ้งแหล่ง JDA A-18 กลับมาจ่ายก๊าซฯตามปกติ หลังปิดซ่อมรอยรั่วท่อสำเร็จ
PTT แจ้งแหล่ง JDA A-18 กลับมาจ่ายก๊าซฯตามปกติวันนี้ หลังปิดซ่อมรอยรั่วท่อสำเร็จ
นายนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า แหล่งก๊าซธรรมชาติพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA A-18) กลับมาจ่ายก๊าซฯได้ตามปกติเมื่อเวลา 02.55 น. ในวันนี้ (12 ต.ค.) หลังจากที่ได้หยุดจ่ายก๊าซฯตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (11 ต.ค.)
โดยวานนี้(11ต.ค.) เมื่อเวลา 07.38 น.ปตท. ได้รับแจ้งจากผู้ผลิตแหล่งก๊าซฯ JDA A-18 ว่าพบจุดรั่วขนาดเล็กที่ท่อขนาด 4 นิ้ว ซึ่งเป็นท่อนำคอนเดนเสท จึงมีความจำเป็นต้องหยุดผลิตก๊าซฯ เพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสียหาย โดย ปตท.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบและเร่งบริหารจัดหาเชื้อเพลิงทดแทน ซึ่งการซ่อมแซมแล้วเสร็จในเวลาประมาณ 19.00 น.
ทั้งนี้ ปตท. ได้ประสานความร่วมมือกับ บริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ทีทีเอ็ม เพื่อจัดสรรปริมาณก๊าซฯ คงเหลือในระบบท่อส่งก๊าซฯ สำหรับจ่ายให้แก่โรงไฟฟ้าจะนะ ระหว่างการซ่อมแซมของผู้ผลิต เพื่อลดผลกระทบจากปริมาณก๊าซฯ ที่หายไปจากระบบประมาณ 440 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แจ้งความก้าวหน้าในการซ่อมแซมและปริมาณก๊าซฯ คงเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการวางแผนการเดินเครื่อง และการเปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็นน้ำมันดีเซลอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยในเวลา 05.58 น. โรงไฟฟ้าจะนะได้เปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันดีเซลเป็นก๊าซธรรมชาติตามปกติแล้ว รวมปริมาณน้ำมันดีเซลที่ใช้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 565,000 ลิตร สำหรับผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) นั้น ปตท. ได้ดำเนินการจัดหาก๊าซฯ สำรอง ซึ่งมีปริมาณเพียงพอต่อการใช้งานตลอดระยะเวลาการซ่อมแซมดังกล่าวเช่นเดียวกัน
“ปตท. ขอขอบคุณความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในเหตุซ่อมฉุกเฉินครั้งนี้ แม้ว่าก๊าซฯ จากแหล่ง JDA A-18 จะหายไป 440 ล้านลูกบาศก์ฟุต แต่จากการประสานงานร่วมกับ กฟผ. และเพิ่มการจ่ายก๊าซฯ จากแหล่งอื่น ๆ รวมทั้งก๊าซ LNG ทดแทน สำหรับระบบฝั่งตะวันออก ทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปได้อย่างราบรื่น”นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวว่า แหล่งก๊าซฯ JDA A-18 ยังมีแผนหยุดซ่อมบำรุงอุปกรณ์จ่ายก๊าซฯ ไปยังโรงไฟฟ้าจะนะ ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.-3 พ.ย.60 ซึ่งปตท. ได้แจ้งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานในพื้นที่ และประสานงานระหว่างกันเพื่อเตรียมพร้อมแผนบริหารจัดการพลังงานเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ผู้ใช้พลังงานได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดย ปตท. จะทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดการซ่อมบำรุง