ชง 12 หุ้นเด็ด SET ปรับฐานระยะสั้น จับตางบกลุ่มแบงก์
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีแนวโน้มปรับฐานระยะสั้น เนื่องจากเริ่มเห็นแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติและสถาบันออกมา แต่ถือว่ายังไม่น่ากังวลมากนัก โดยวันนี้แนะนำให้จับตาหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะทยอยประกาศงบไตรมาส 3 ออกมาในวันนี้
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.35 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.06 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบไม่มากราว 0.1-0.2% โดยแนะนำให้ติดตามสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีอย่างใกล้ชิด และสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังกองกำลังทหารรัฐบาลอิรักสามารถยึดครองเมืองเคอร์คุก ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้อาจจะกดดันตลาดได้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีแนวโน้มปรับฐานระยะสั้น เนื่องจากเริ่มเห็นแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติและสถาบันออกมา แต่ถือว่ายังไม่น่ากังวลมากนัก โดยวันนี้แนะนำให้จับตาหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะทยอยประกาศงบไตรมาส 3 ออกมาในวันนี้ หุ้นเด่นเลือก CPALL, CPN, HMPRO, ROBINS, PTT, KBANK, MINT, LH, EA, ESSO, BGRIM และ TKN
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (18 ต.ค.) มีแนวโน้มปรับฐานระยะสั้น เนื่องจากเริ่มเห็นแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติและสถาบันออกมา แต่ถือว่าไม่น่ากลัวมากนัก ภาพรวมยังคงติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งช่วงนี้เป็นของกลุ่มแบงก์ ซึ่งฝ่ายวิจัยได้คาดการณ์ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ (10 แห่ง) จะเติบโต 8% QoQ และลดลง 5% YoY พร้อมให้แนวรับ 1,710 จุด ส่วนแนวต้าน 1,730 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ต.ค.) การประชุมผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน วันที่ 18 ต.ค.นี้แม้คาดว่านายสี จิ้งผิง เป็นผู้นำสูงสุดต่อไป แต่ตลาดหุ้นโลกอาจจะเลือกที่จะรอดูนโยบายเศรษฐกิจของจีนในระยะ 5 ปีข้างหน้า และ SET มีแนวโน้ม “ย่ำฐาน” ระยะสั้น โดยมีแนวรับที่ 1,710 – 1,720 จุด ซึ่งยังมองเป็นโอกาสในการซื้อสำหรับการลงทุนระยะสัปดาห์ต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่น, ค้าปลีก, โรงแรม ที่คาดการณ์กำไรออกมาดี และกลุ่มธนาคารที่มี valuation “ถูก”
ยังชอบ 1) กลุ่มค้าปลีกที่ได้รับผลดีจากกำลังซื้อฟื้นตัว, Same store sale เร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 3Q17 และต่อเนื่องในปีหน้า 2) กลุ่มโรงกลั่น ได้ผลดีค่าการกลั่นสูง กำไรจากสต็อกน้ำมัน 3) กลุ่มธนาคารที่ valuation “ไม่แพง” อย่าง CPALL CPN HMPRO ROBINS ESSO PTT KBANK รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาหุ้น Laggard ตลาด อย่าง MINT (กำลังเข้าสู่ช่วง high season ของธุรกิจท่องเที่ยว) LH (ราคา laggard, ปันผลสูง 6% และ Trade Code แนะนำ “ซื้อ” แนวต้าน 11.5 บาท) รวมถึง EA ที่คาดการณ์กำไร 3Q17 เติบโตดีทั้ง y-y และ q-q จากกำลังการผลิตไฟฟ้าหาดกังหัน 126MW เริ่มรับรู้รายได้ และปริมาณลมแรงใน 3Q17
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ต.ค.) วาง Filter แนวรับที่ 1,700 – 1,710 จุด และแนวต้านที่ 1,730 จุด แนะนำเทรดดิ้งตามกรอบการลงทุน แนะซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ESSO, BGRIM, TKN ที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิค