RS บวกกว่า 5% รับข่าวลุยเดินสายโรดโชว์ตปท. ชูธุรกิจเฮลท์แอนด์บิวตี้

RS บวกกว่า 5% รับข่าวลุยเดินสายโรดโชว์ตปท. ชูธุรกิจเฮลท์แอนด์บิวตี้ โดยราคาปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ 20 บาท บวก 1 บาท หรือ 5.26% สูงสุดที่ 20 บาท ต่ำสุดที่ 18.80 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 91.65 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ 20 บาท บวก 1 บาท หรือ 5.26% สูงสุดที่ 20 บาท ต่ำสุดที่ 18.80 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 91.65 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.21%

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ คาดว่ามาจากการนักลงทุนเข้าซื้อหลังบริษัทมีแผนเดินสายโรดโชว์ชูธุรกิจเฮลท์แอนด์บิวตี้ในต่างประเทศ

นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน RS เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้รับเชิญจากบริษัทหลักทรัพย์ใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพบปะนักลงทุนพร้อมให้ข้อมูลบริษัทแก่นักลงทุนสถาบันต่างชาติหลายประเทศ ได้แก่ งาน “Frontier & Emerging Markets Conference” ระหว่างวันที่ 30-31 ต.ค.ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

รวมทั้ง “Daiwa Investment Conference Hong Kong 2017” ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ย.ที่ฮ่องกง และงาน “Asean Stars of the Next Decade 2017” ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย.ที่สิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับที่เดินสายโรดโชว์พบปะกองทุนชั้นนำในประเทศ

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศถือหุ้นเกือบ 20% คาดว่าหลังจากเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศแล้วจะได้เห็นผลตอบรับและสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนสถาบันเพิ่มจำนวนและสร้างเสถียรภาพให้กับราคาหุ้นขึ้นมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณอันดีในการการันตีถึงคุณภาพของบริษัท เนื่องจากปกตินักลงทุนกลุ่มนี้จะมีการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างดีในทุกแง่มุมก่อนตัดสินใจลงทุน

โดยข้อมูลธุรกิจที่เตรียมนำเสนอให้แก่นักลงทุน คือ แนวโน้มการเติบโตโดดเด่นจาก 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจสุขภาพและความงามที่ได้”ไลฟ์สตาร์”ทำรายได้และกำไรมากที่สุดให้กับบริษัท โดยต่อยอดธุรกิจด้วยแบรนด์”ช็อป 1781″ซึ่งมีฐานลูกค้าเกินครึ่งล้านราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากฐานผู้ชมช่อง 8 ขยายตัว ได้รับการตอบรับอย่างคับคั่งจากพันธมิตรธุรกิจใหม่ที่สนใจนำสินค้าสุขภาพและความงามทำตลาดผ่านช่องทางเทเลชอปปิ้ง รวมถึงมีผู้ให้ความสนใจและรอการตอบรับร่วมทำธุรกิจอยู่อีกหลายราย

ขณะที่ธุรกิจสื่อได้”ช่อง 8″เป็นเรือธง เพราะมีแผนปรับผังช่อง 8 ครั้งใหญ่ส่งท้ายปีในช่วงเดือน พ.ย.นี้ เพื่อเติมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น หลังจากเรตติ้งไพร์มไทม์เฉลี่ยร่วม 1 ล้านรายต่อนาที พุ่งทะยานสูงถึง 40% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่มีเรตติ้งเฉลี่ย 7 แสนรายต่อนาที ปรากฏว่าลูกค้าพันธมิตรหลายรายตอบรับทำสัญญาการซื้อโฆษณาระยะยาวเข้ามาแล้ว

อย่างไรก็ดี คาดว่าสิ้นปีนี้ช่อง 8 จะสามารถทำเรตติ้งเฉลี่ยได้ 500,000 รายต่อนาที ขณะที่ธุรกิจสุขภาพและความงามคาดว่าจะมียอดขายเติบโตแรงอย่างก้าวกระโดดทำรายได้ 1,200 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตถึง 600% จากปีก่อน ส่งผลให้รายได้ปี 60 เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่ 3.5 พันล้านบาท

นอกจากนี้ วันที่ 31 ต.ค.60 กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 3 (RS-W3) จำนวน 193,332,870 หน่วย ซึ่งจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ในอัตราส่วนหุ้นสามัญเดิม 5 หุ้นต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ราคาใช้สิทธิ 12.50 บาทต่อหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า มีอายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี และวันสุดท้าย 23 พ.ค.63 ซึ่งเงินที่ได้จากการแปลงวอร์แรนต์มากกว่า 2.4 พันล้านบาท

รวมถึงผลประกอบการอย่างก้าวกระโดดของบริษัทฯ จะทำให้สถานะทางการเงินแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก สำหรับเงินที่ได้จะนำไปลดเงินกู้ และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

ส่วนแผนการใช้เงินลงทุนนั้น แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนแรกจะใช้พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของช่อง 8 และการลงทุนผลิตรายการต่าง ๆ ตามแผนการเติมคอนเทนต์ต่อเนื่อง ส่วนที่สองจะใช้รองรับแผนขยายตลาดเชิงรุกสอดรับกับเทรนด์สุขภาพและความงามที่น่าจะมาแรงต่อไป โดยใช้พัฒนาระบบคอลเซ็นเตอร์และระบบฐานข้อมูลลูกค้า (Data Base) ทำให้เกิดความแม่นยำในการทำตลาดมากยิ่งขึ้น ตลอดจนจัดการระบบคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

 

Back to top button