พาราสาวะถี
ภาพของประชาชนที่หลั่งไหลไปจับจองพื้นที่รอบบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อรอชมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยไม่หวั่นว่าจะต้องเฝ้ารอข้ามคืน ฝนจะตกหรือแดดจะร้อนเพียงใด เพราะทุกหัวใจต่างต้องการที่จะเข้าไปใกล้บริเวณงานพระราชพิธีมากที่สุด เพื่อส่งเสด็จพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่สู่สวรรคาลัย
อรชุน
ภาพของประชาชนที่หลั่งไหลไปจับจองพื้นที่รอบบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อรอชมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยไม่หวั่นว่าจะต้องเฝ้ารอข้ามคืน ฝนจะตกหรือแดดจะร้อนเพียงใด เพราะทุกหัวใจต่างต้องการที่จะเข้าไปใกล้บริเวณงานพระราชพิธีมากที่สุด เพื่อส่งเสด็จพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่สู่สวรรคาลัย
ในส่วนการรองรับประชาชนนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้เตรียมการกันอย่างรอบคอบ ไม่เพียงเฉพาะเรื่องความปลอดภัย แต่รวมไปถึงความสะดวกสบาย การดูแลเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆ ทุกอย่างอยู่ในความพร้อมที่เรียกได้ว่าเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ งานนี้มองตากันก็รู้ใจ ไม่ต้องสื่อสารใดๆ ทุกคนทุกฝ่ายต่างรวมใจให้เป็นหนึ่งเดียวในวันที่ความเศร้าและทุกข์ใจปกคลุมทั้งแผ่นดิน
ขณะที่คณะรัฐมนตรีวันนี้ยังคงมีการประชุม แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การเตรียมความพร้อมครั้งสุดท้ายก่อนพระราชพิธีสำคัญ ส่วนอีกด้านก็ยังมีปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนที่ผู้บริหารประเทศจะต้องเกาะติดและให้ความช่วยเหลือ นั่นก็คือปัญหาน้ำท่วมที่ยังมีอีกกว่า 10 จังหวัดกำลังเผชิญความเดือดร้อนอยู่ เป็นงานที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยันว่าต้องทำอย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว
พอพูดถึงประเด็นน้ำท่วมอันเป็นภัยธรรมชาติ เจ้าภาพที่รับหน้าเสื่อดูแลเป็นหลักคือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือปภ. ในส่วนของงบฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วนนั้นมีอยู่แล้ว แต่ที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยไม่สบายใจคงเป็นกรณีที่มีการเสนอให้ครม.เห็นชอบจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็ว โดยที่ตัวเองไม่ใช่หน่วยงานหลักในการใช้
ามเหตุผลที่ยกมาประกอบในการของบประมาณ 573,075,000 บาท เพื่อจัดซื้อจำนวน 849 เครื่องคือ จัดส่งไปยังปภ.จังหวัด เพื่อให้หน่วยงานอื่นทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครององค์กรท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ขนส่งยืมใช้งาน คำถามก็คือหน่วยงานที่เขามีอำนาจโดยตรงทั้งตำรวจและขนส่งไม่มีงบประมาณในการจัดซื้อหรืออย่างไร
สิ่งสำคัญมากไปกว่านั้นปรากฏว่า เมื่อไปตรวจสอบการจัดซื้อในส่วนของตำรวจพบว่า ตกที่เครื่องละ 130,000 บาท แต่ของปภ.จัดซื้ออยู่ที่เครื่องละ 675,000 บาท คำถามประการต่อมาคือ ทำไมถึงแพงกว่ามหาศาล หรือถ้าบอกว่าเพราะคุณสมบัติเหนือกว่า ปุจฉาประการต่อมาก็คือ ในเมื่อไม่ใช่หน่วยงานหลักที่จะใช้เครื่องมือ ซื้อมาให้เขายืมใช้ทำไมต้องวางสเปคไว้สูงกว่าหน่วยงานที่เขาใช้กันประจำ
พอเห็นส่วนต่างอย่างนี้และคำยืนยันที่ว่า จัดซื้อตามที่ฝ่ายปฏิบัติเสนอมา เป็นใครก็ต้องนึกไปถึงกรณีเรือเหาะและจีที 200 และบังเอิญว่าคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องก็ดันเป็นตัวละครตัวเดียวกัน งานนี้คงต้องฝากไปถึงบิ๊กตู่ในฐานะผู้มีอำนาจที่ย้ำนักย้ำหนากับผู้ใต้บังคับบัญชาว่า งบประมาณทุกบาททุกสตางค์จะต้องใช้อย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด กรณีนี้น่าจะเป็นตัวอย่าง
บทเรียนจากการเซตซีโร่กกต. น่าจะเป็นอุทาหรณ์เตือนใจใครก็ตามที่ชอบสอพลอกับอำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งหรือพูดง่ายๆ ว่าไม่ผ่านตัวแทนของประชาชน มักจะเข้าอีหรอบเสร็จศึกฆ่าขุนพล เราจึงได้เห็นอาการดิ้นของ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าฯสตง.ที่ยืนยันว่าตัวเองมีคุณสมบัติในการที่จะสมัครเป็นผู้ว่าฯสตง.อีกรอบได้
ทั้งๆ ที่ในบทเฉพาะกาลของร่างกฎหมายที่ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งผ่านความเห็นชอบของสนช.ไปเมื่อสัปดาห์ก่อนระบุไว้ชัดเจน ห้ามมิให้ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯสตง.มาแล้วกลับมาดำรงตำแหน่งอีก แต่พิศิษฐ์ก็ยกเอาคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 71/2557 ให้การคุ้มครองมาเป็นเกราะป้องกัน จนร้อนถึงสมาชิกสนช.หลายรายต้องออกมาตอบโต้ทันควัน
ทั้ง นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกวิปสนช. ธานี อ่อนละเอียด สมาชิกสนช. ที่ยกเอาเหตุผลเดียวกันคือ ศักดิ์ของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวสูงกว่าคำสั่งหัวหน้าคสช. พร้อมอธิบายหลักการแบ่งลำดับชั้นกฎหมายไว้ 3 ระดับคือ รัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ทั่วไป ส่วนคำสั่งหัวหน้าคสช.มีหลักเกณฑ์กฎหมายชัดเจนว่าสามารถยกเลิกได้ หากออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องขึ้นมาแทนที่ ดังนั้น เมื่อมีพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญแล้ว ย่อมนำมาใช้แทนคำสั่งหัวหน้าคสช.ได้
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการยืนยันว่า การผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวของสนช.ไม่ได้เจตนากีดกันหรือสกัดกั้นพิศิษฐ์แต่อย่างใด เพราะเป็นเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ลงนาม ขณะที่ สมชาย แสวงการ สมาชิกสนช.ผู้ได้ดิบได้ดีจากการลากตั้งมาตั้งแต่คราวคณะรัฐประหารคมช. ตอบโต้ด้วยท่วงทำนองที่ดุดันกว่า
ไม่เข้าใจว่าเหตุใดพิศิษฐ์จึงไปตีความให้วุ่นวาย เมื่อเคยเป็นมาแล้วต้องให้คนอื่นได้เป็นบ้าง คนเคยเป็นมาแล้วต้องรู้จักพอ คนอื่นที่มีความรู้ ความสามารถในประเทศอีกจำนวนมากจะได้เข้ามา อย่าไปดื้อดึง ทุกอย่างควรพอดีและพอเพียง และอีกหนึ่งถ้อยแถลงที่น่าจะเป็นการยืนยันความเหมาะสมและเหตุผลว่าเหตุใดสมชายจึงได้เป็นผู้แทนจากแต่งตั้งของคณะรัฐประหารมาโดยตลอด
นั่นก็คือ การขู่พิศิษฐ์ที่ไปสมัครรับการสรรหาเป็นผู้ว่าฯสตง.ไว้แล้วนั้น เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ และหากได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินหรือคตง. ก็มีสิทธิได้เป็นผู้ว่าฯสตง. แต่ถามว่าจะอยู่ได้กี่วัน เพราะหากร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินมีผลบังคับใช้เมื่อใด ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งทันที เพราะกฎหมายเขียนไว้ชัดเจนมาก ไม่ให้อดีตผู้ว่าสตง.กลับมาเป็นผู้ว่าฯสตง.ได้อีก
ขู่คนที่จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาแล้วก็ชี้นำหรือดักคอคนที่จะเลือกไว้อีกต่างหาก ด้วยการฝากไปถึงคตง.ว่า ให้พิจารณากฎหมายให้เป็นไปตามเจตนาที่สนช.ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ หากเลือกใครไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบ ควรเลือกคนที่มีคุณลักษณะถูกต้อง เพราะเวลาคตง.ส่งชื่อมาให้สนช.ตรวจสอบจะได้ไม่หน้าแตก นักล็อบบี้ยีสต์มือใหม่ทั้งหลายให้ดูชั้นเชิงแบบนี้ไว้ นี่เป็นแค่หนังตัวอย่าง หลังเสร็จสิ้นงานสำคัญแล้ว เชื่อได้เลยว่า การเมืองของบ้านเราจะร้อนระอุแน่นอน