ฟันด์โฟลว์ และมายา

ตัวเลขไม่เคยโกหก กรณีฟันด์โฟลว์ต่างชาติจะไหลเข้า ตามที่บรรดานักวิเคราะห์หุ้นในไทยพากันเชื่อว่าจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดสิ้นปีนี้เหนือ 1,750 จุด และปีหน้าอาจจะถึง 1,900-2,000 จุด ทำท่าจะเป็นแค่จินตนาการไปเสียแล้ว เพราะตัวเลขที่มีคนบอกว่าไม่เคยโกหกนี่แหละ


พลวัตปี 2017 : วิษณุ โชลิตกุล

ตัวเลขไม่เคยโกหก

กรณีฟันด์โฟลว์ต่างชาติจะไหลเข้า ตามที่บรรดานักวิเคราะห์หุ้นในไทยพากันเชื่อว่าจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดสิ้นปีนี้เหนือ 1,750 จุด และปีหน้าอาจจะถึง 1,900-2,000 จุด ทำท่าจะเป็นแค่จินตนาการไปเสียแล้ว เพราะตัวเลขที่มีคนบอกว่าไม่เคยโกหกนี่แหละ

ปลายเดือนสิงหาคม แรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ดันดัชนีตลาดหุ้นไทยบวกแรงทะลุ 1,600 จุดมาได้ และเดือนตุลาคมนี้ก็มีการดันอีกรอบ ดัชนี SET ทะลุ 1,700 จุดมาได้ แต่ยังไม่ผ่านแนวต้าน 1,720 จุด ก็มีแรงขายทำกำไรออกมาสองวันซ้อนร่วงไป 40 จุด ก่อนที่วันศุกร์ที่ผ่านมาจะมีแรงซื้อดันดัชนีรีบาวด์กลับ แต่ก็ยังไม่ข้าม 1,700 จุดอยู่ดี

บรรดานักวิเคราะห์ “ขาเชียร์” พากันบอกว่าการพักฐานหรือ market correction เป็นแค่การ “ลงเพื่อขึ้น” ตามปกติ เพราะต่างชาติยังจะเข้าตลาดหุ้นไทยอีกมหาศาล เนื่องจากปีนี้ต่างชาติเข้าตลาดหุ้นไทยน้อยกว่าตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค และในเอเชีย

คำอธิบายและตรรกะนักวิเคราะห์ดังกล่าว จะน่าเชื่อถือยิ่ง หากไม่บังเอิญตัวเลขที่โกหกไม่เป็นนี่แหละ (ดูตารางประกอบ)

กองทุนในประเทศ โดยเฉพาะที่มีคนบอกว่า กองทุน RMF-LTF พร้อยลุยแหลก ปรากฏว่าเดือนตุลาคม (จนถึงวันศุกร์) นี้ ขายสุทธิมากถึง 2.82 พันล้านบาท และยอดซื้อสะสมสุทธินับแต่ต้นปี ทรงตัวอยู่แถวๆ 5.9 หมื่นล้านบาทมาหลายเดือน สรุปง่ายๆ คือ ไม่ได้ซื้อเพิ่มเติมในสองเดือนนี้กี่มากน้อย หรือทั้งซื้อ-ขายเท่ากัน

ส่วนต่างชาติยิ่งร้ายกันใหญ่ ยอดสะสมสุทธินับแต่ต้นปียังคงต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับบรรดานักวิเคราะห์ที่พากันสรุปง่ายๆ ว่าต่างชาติมาแล้ว และยิ่งบอกว่าจะมากันมากขึ้นในช่วงถัดไป ก็เป็นแค่ความคาดหวังที่เลื่อนลอยเสมือน “วิมานเมฆ” อย่างแท้จริง

ฟันด์โฟลว์จากต่างชาติที่คาดหวังไม่ได้ จะทำให้ดัชนีทะลุทะลวงฝ่าแนวต้านเหนือ 1,700 จุดในระยะสั้นยิ่งดูยากพอสมควร จะคาดหวังทะลุข้าม 1,800 จุดทำนิวไฮของตลาดหุ้นไทย ยิ่งไม่ต่างอะไรเลยกับปฏิบัติการ Mission Impossible ในภาพยนตร์ซีรีส์ฮอลลีวูด ที่เหนือจริงอย่างมาก เกินกว่าจะเชื่อว่าเป็นจริง

โดยข้อเท็จจริงของตลาดหุ้นโลกยามนี้ ต้องยอมรับกันว่า กระเงินท่วมโลกที่เรียกว่าฟันด์โฟลว์มากกว่า 15 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จะยังคงเป็นกระแสครอบงำโลกต่อไปจนกว่าจะถึง ต้นปี ค.ศ 2019  (เว้นแต่ธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่นจะลดหรือเลิกมาตรการ QE ก่อนกำหนด) ทำให้สภาพคล่องของตลาดทุนทั่วโลกล้นเกิน และดันดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกวิ่งเร็วหรือสวนทางกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ดัชนีดาวโจนส์ที่นิวยอร์กทะยานต่อเนื่องจากต้นเดือนพฤศจิกายน 2559 ทำนิวไฮครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นเวลานานถึง 11 เดือน โดยมีการพักฐานสั้นๆไม่กี่ครั้ง จนมาถึงเหนือแนวต้านที่ระดับ 23,000 จุด และดัชนีนิกเกอิ ทำนิวไฮทั้งที่ผลประกอบการโดยรวมย่ำแย่ เป็นภาพที่ไม่อาจปฏิเสธได้

ยามนี้ บรรดาผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่ข้ามชาติ ที่ควบคุมกระแสฟันด์โฟลว์ ต่างเริ่มแสดงความกังวลว่า สภาพตลาดกระทิงในปัจจุบัน เข้าข่ายตลาดเริ่มมีสภาพเป็นฟองสบู่ขึ้นมากชัดเจน เมื่อค่าพี/อีของตลาดสูงเกินระดับสมเหตุสมผล

พี/อี ที่สูงเกิน หมายความว่าราคาหุ้นวิ่งเร็วกว่ากำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้นจึงน่าสุ่มเสี่ยง

หลายเดือนก่อน การขายหุ้นและถอนตัวของกองทุนขนาดใหญ่ จากตลาดสหรัฐฯ และยุโรป จากแนวโน้มว่า ในครึ่งหลังของปี เฟด กับ ECB อาจไม่ยอมปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งผลพวงที่เกิดขึ้น ทำให้ค่าดอลลาร์ และ ยูโรอยู่ในสภาพที่อ่อนตัวลง ทำให้กระแสฟันด์โฟลว์เกิดไหลกลับมาที่ตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย แม้จะยังไม่เข้าในตลาดหุ้นเต็มตัว แต่ก็มีผลบวกต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่

ดัชนี MSCI ของตลาดเกิดใหม่ในเอเชียระบุว่า ในไตรมาสสามที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเกิดใหม่เอเชีย รวมทั้งตลาดไทย ได้รับอานิสงส์จากฟันด์โฟลว์ไหลเข้า ยกระดับสร้างผลตอบแทนเชิงบวกโดดเด่น แต่เมื่อย่างเข้าสู่ไตรมาสสี่ สถานการณ์ก็ผันแปรอีกครั้ง

แรงซื้อที่คึกคักจากความมั่นใจเกินเหตุ ในขณะที่ความกลัวและระมัดระวังเริ่มกลายเป็นคำที่ฟุ่มเฟือยที่มีคนอยากได้ยินต่ำ คำนิยามก่าแก่ของนายอลัน กรีนสแปนในอดีตก็โผล่มาทักทาย ว่าด้วย “ความกระตือรือร้นที่ไม่สมเหตุสมผล” หรือ irrational exuberance ก็เริ่มกลับมาสู่ริมฝีปากเพิ่มขึ้น

กรณีของตลาดหุ้นไทย ข้อเท็จจริงจากตัวเลขการเข้ามาของฟันด์โฟลว์ที่หยุดนิ่ง นอกจากทำลายมายาคติของ “นักวิเคราะห์ขาเชียร์” แล้ว ยังทำให้การอ่านสัญญาณเทคนิคของราคาหุ้นบลูชิพในตลาดและดัชนีรวมของตลาดเพิ่มความสำคัญมากขึ้น

คำพูดของเซียนหุ้นระดับ “ขาใหญ่” ที่ว่า ถ้าไม่ได้อ่านกราฟอย่างเพิ่งเข้า น่าจะเป็นคำเตือนสติได้ดีอีกครั้ง เมื่อข้อเท็จจริงผลประกอบการกลุ่มธนาคารที่ต่ำกว่าคาด ตัวเลขกำไรกลุ่มพลังงานและสื่อสารที่ย่ำแย่ ออกมาสำทับว่า ฟองสบู่ราคาหุ้นมีโอกาสเป็นไปได้ และเป็นจริงกว่าความเชื่อเรื่องฟันด์โฟลว์

Back to top button