สตง. คนดีสุดซอย

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

ข่าวการเมืองช่วงนี้ไม่ยักมาจากนักเลือกตั้ง กลายเป็นนักแต่งตั้งขัดกันเอง เช่น ร่างกฎหมายตรวจเงินแผ่นดินจะให้ผู้ว่า สตง.ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่า สตง.ก็โวย สนช.เขียนบทเฉพาะกาลสกัดไม่ให้นั่งเก้าอี้อีกสมัย จน สนช.สมชาย แสวงการ เตือนสติว่า “คนเคยเป็นมาแล้วต้องรู้จักพอ”

นั่นสินะ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ก็ถามว่า สมชายเป็น สนช.ตั้งแต่รัฐประหาร 49 เป็น ส.ว.สรรหา 9 ปี รัฐประหาร 57 ก็เป็น สนช.อีก 3 ปี รอบหน้ายังมี ส.ว.แต่งตั้ง ไม่ทราบ “รู้จักพอ” หรือยัง

ฟังไปฟังมา อดีตผู้ว่าคงไม่ได้คัมแบ็ก ทั้งที่มีผลงานโดดเด่นตลอด 3 ปี โดยเฉพาะช่วงที่มี คตร.โดย สตง.เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน นักการเมืองทั้งระดับชาติ ท้องถิ่นและข้าราชการ หวาดผวาไปตามๆ กันสตง.ไล่กวดขันการใช้งบ ถ้าพบว่าผิดประเภทก็ถูกทวงคืน บางรายส่ง ป.ป.ช.เอาผิด หรือทันใจกว่านั้น ส่งลุงตู่ใช้ ม.44

อ้าว ก็อย่าง “ชายหมู” นี่ไง โดนสตง.สอบอุโมงค์ไฟ 39 ล้านบาท ต่อมาก็โดน ม.44 แต่ลงท้ายท่านผู้ว่า สตง.ต้องยกมือไหว้ขอขมาอดีตผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งฟ้องฐานหมิ่นประมาท

แน่ละ กองเชียร์ชื่นชมรักษาผลประโยชน์ชาติ แต่บางเรื่องสตง.ก็ทักท้วงจน อปท.ไม่กล้าบริการประชาชน เช่น ไม่กล้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่ง สตง.เห็นว่าเป็นหน้าที่กรมปศุสัตว์ ไม่ใช่อำนาจอปท. จนโรคระบาดลุกลามหลายจังหวัด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจึงดิ้นหารือกฤษฎีกา ให้ตีความว่าทำได้

บางท้องถิ่นก็มีข่าว สตง.ห้ามจัดรถรับส่งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต้องเปิดหารือกัน จึงยอมให้ทำได้ ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน สตง.ก็ว่าทำไม่ได้ ต้องให้คณะกรรมการกระจายอำนาจตีความ อปท.จึงทำได้ มิพักต้องพูดถึงงานวันเด็ก อปท.หลายแห่งเลิกจัด เพราะถูกเข้มงวดการใช้งบ ให้เด็กไปเที่ยวค่ายทหารแทน

อย่าว่าแต่ อปท.เลย กระทั่งรัฐบาล คสช.ก็มีปัญหา เมื่อต้นปีกรมการกงสุลจำเป็นต้องต่อสัญญาทำ e-passport กับบริษัทเดิมอีก 1 ปี อัยการบอกว่าทำไม่ได้ ถ้า สตง.ตรวจจะมีความผิด กระทรวงการต่างประเทศเสนอใช้ ม.44 แต่ คสช.ไม่เห็นชอบ มอบให้วิษณุ เครืองาม ไปหารือสตง.

ครั้งนั้นโฆษกไก่อูฝากถึง สตง.ว่า “ถ้าคุณยังยึดอยู่ในกติกา ระเบียบอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริงในโลกมนุษย์ใบนี้ ทุกอย่างไม่สามารถแก้ปัญหาได้”

ล่าสุด รัฐบาลยังกุมขมับ เรื่องการจัดซื้อยางบบัตรทอง ซึ่ง สตง.ตีความว่า สปสช.ไม่มีอำนาจจัดซื้อต้องให้ รพ.ซื้อเอง ทั้งที่สปสช.ซื้อมานับสิบปีและซื้อรวมกันได้ราคาถูกกว่า

ผลการตีความทำให้ รมว.สาธารณสุขต้องขอมติ ครม. จัดซื้อยามาเป็นครั้งๆ กระทั่งปลายปีงบประมาณ 2560 มีความจำเป็นต้องรีบซื้อ ทุกหน่วยงานแม้แต่กระทรวงสาธารณสุขที่เป็น “คู่กัด” สปสช.มานาน ก็ยังเห็นพ้องกันว่าต้องให้ สปสช.จัดซื้อไปก่อน แต่ สตง.ไม่ยอมท่าเดียว

หลังจากคาราคาซังมาหลายเดือน ผู้ป่วยเรื้อรังโวยว่าจะขาดยา ท้ายที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ต้องออก ม.44 เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ให้ สปสช.รีบซื้อยาภายใน 17 วันที่เหลือของปีงบประมาณ

ที่พูดมาไม่ใช่จะโทษอดีตผู้ว่า เพราะเป็นปัญหาทั้งองค์กร แถมผู้มีอำนาจ และกระแสสังคม ก็ชอบก็เชียร์ให้ สตง.สุดโต่ง แต่ไหนๆ จะมีกฎหมายใหม่ ผู้ว่าใหม่ ก็มาคิดทบทวนกันหน่อยไหมถ้าไม่มีใครเบรก สตง.ได้ วันหน้าไม่มี ม.44 จะทำไง