สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ต.ค. 60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทแคทเธอร์พิลลาร์ และ 3M นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวได้ดีในเดือนต.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ รวมทั้งการรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,441.76 จุด เพิ่มขึ้น 167.80 จุด หรือ +0.72% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,569.13 จุด เพิ่มขึ้น 4.15 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,598.43 จุด เพิ่มขึ้น 11.60 จุด หรือ +0.18%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทโบลิเดน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ของสวีเดน และจากแรงขายที่ส่งเข้าฉุดหุ้นวิตเบรด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม เชนร้านกาแฟและร้านอาหารรายใหญ่ของอังกฤษ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซน ปรับตัวลดลงในเดือนต.ค.
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ 389.33 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,394.80 จุด เพิ่มขึ้น 7.99 จุด หรือ +0.15% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,013.19 จุด เพิ่มขึ้น 10.05 จุด หรือ +0.08% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,526.54 จุด เพิ่มขึ้น 2.09 จุด หรือ +0.03%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) โดยดัชนี FTSE 100 ถูกกดดันในระหว่างวันจากแรงเทขายในหุ้นวิตเบรด หลังบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม เชนร้านกาแฟและร้านอาหารรายนี้เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังในหน่วยธุรกิจย่อย ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการดำเนินงานของ “คอสตา คอฟฟี” เชนร้านกาแฟชื่อดังในเครือของบริษัท
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 2.09 จุด หรือ +0.03% ปิดที่ 7,526.54 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากซาอุดิอาระเบียให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าปรับลดการผลิตเพื่อทำให้ตลาดน้ำมันโลกกลับสู่ภาวะสมดุล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 52.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 58.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.ปีนี้
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นทำนิวไฮอีกครั้งเมื่อคืนนี้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.60 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ระดับ 1,278.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10.9 เซนต์ หรือ 0.64% ปิดที่ 16.966 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.7 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 925.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.25 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 961.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) ขณะตลาดจับตาการประกาศชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนต่อไป
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1759 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1734 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3121 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3199 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7775 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7800 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.86 เยน จากระดับ 113.74 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9907 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9868 ฟรังก์สวิส