SCBS เคาะเป้า IVL หนักหน่วงรับกิจการใหม่ดันกำไรโตเด่น จับตาราคาพุ่ง 62 บาท!
SCBS เคาะเป้า IVL หนักหน่วงรับกิจการใหม่ดันกำไรโตเด่น จับตาราคาพุ่ง 62 บาท! โดย ณ เวลา 14.46 น. ราคาอยู่ที่ 43.75 บาท ลบ 1.00 บาท หรือ 2.23% สูงสุดที่ 45.50 บาท ต่ำสุดที่ 43.00 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 1.84 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น IVLณ เวลา 14.59 น. ราคาอยู่ที่ 44.00 บาท ลบ 0.75 บาท หรือ 1.68% สูงสุดที่ 45.50 บาท ต่ำสุดที่ 43.00 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 2.11 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นายชัยพัชร ธนวัฒโน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ในราคาเป้าหมาย 62 บาทต่อหุ้น โดยมองว่าราคาหุ้นที่ลดลงเปิดโอกาสให้เข้าซื้อเพิ่มก่อนบริษัทจะประกาศผลการดำเนินงาน
ทั้งนี้ ประเมินกำไรในช่วงไตรมาส 3/60 ของ IVL จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 75% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยรับปัจจัยหนุนจากปริมาณขาย และ core EBITDA/t ที่สูงขึ้น พร้อมทั้งสัดส่วนที่สูงขึ้นของผลิตภัณฑ์ commodifly-grade ที่ให้อัตรากำไรสูง (ธุรกิจ EO/EG ในสหรัฐฯ) และผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงในกลุ่มเส้นใย
นอกจากนี้ คาดกำไรจากสินค้าคงคลังจำนวน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับขาดทุน 4.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาส 3/59 และ 22.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาส 2/60 หากตัดผลกระทบของกำไร/ขาดทุนจากสินค้าคงคลังออกไป กำไรจากการดำเนินงานจะยังคงเติบโต 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 29% จากไตรมาสก่อน
โดยปัจจุบัน IVLประกาศดีลออกมาแล้ว 3 ดีล ซึ่งดำเนินการเสร็จไปแล้ว 2 ดีล ส่วนดีลที่ 3 คือการเข้าซื้อกิจการของ DuPont Teijin Films (DTF) ผู้ผลิตฟิล์มที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขั้นนำของโลก ซึ่งจะทำให้ IVL มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 2.77 แสนล้านตันต่อปี (3% ของกำลังการผลิตในปัจจุบัน และ 14% ของการผลิต HVA)
อย่างไรก็ตาม ถ้าดีลที่ 3 แล้วเสร็จภายในปีนี้ (2560) จะส่งผลให้ IVL มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นรวมทั้งหมด 3.81 แสนตันต่อปี หรือ 3.6% จากกำลังการผลิตทั้งหมด 10.7 ล้านตันต่อปี
ขณะที่ ยังคาดการณ์กำไรของ IVL เพิ่มขึ้น 18% ในปี 60, เพิ่มขึ้น 30% ในปี 61และเพิ่มขึ้น 33% ในปี 62 เพื่อสะท้อน core EBITDA/t ที่ดีกว่าคาด โดยใช้สมมตติฐาน core EBITDA/t สำหรับช่วง 3 ปีดังกล่าวที่ 108-117 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน เพิ่มขึ้นต่กสมมติฐานเดิมที่ 100-102 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน
อีกทั้ง ผลิตภัณฑ์ HVA ที่คิดเป็น 20% ของกำลังการผลิตทั้งหมด และ 58% ของ core EBITDA ในช่วงครึ่งแรกของปี โดยคาดว่ากำไรปกติของ IVL จะเติบโตที่ CAGR 29% ในปี 2560-2562 อ้างอิง core EBITDA/t ที่เติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี โดยเกิดจากกำลังการผลิตใหม่ของผลิตภัณฑ์ HVA และปริมาณขายที่เติบโตเฉลี่ย 6% ต่อปี
อย่างไรก็ตามได้ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นสู่ 62 บาท อิงกับ EV/EBITDA ที่ 10 เท่า ซึ่งยังคิดเป็น 2 ใน 3 ของ EV/EBITDA ในตลาดขาขึ้นครั้งก่อนหลังวิกฤติการเงินโลก โดยราคาเป้าสะท้อนถึง PBV ที่ 2.5 เท่าและ PE 12 เท่าในปี 61 เทียบกับ CAGR ของกำไรปกติระยะ 3 ปีข้างหน้าที่ 29%
ทั้งนี้เป็นที่น่าจับตาว่าราคาหุ้น IVL มีโอกาสจะปรับตัวขึ้นสู่ราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ที่ 62 บาท หลังจากที่ประเมินกำไรในช่วงไตรมาส 3/60 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 75% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยราคาปัจจุบันมีอัพไซด์ถึง 41% เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายดังกล่าว