สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 ต.ค. 60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงฟอร์ด มอเตอร์ และทวิตเตอร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไฟเขียวร่างงบประมาณปี 2561 ฉบับวุฒิสภา ซึ่งจะเป็นการปูทางให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้ามาตรการปฏิรูปภาษี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,400.86 จุด เพิ่มขึ้น 71.40 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,560.40 จุด เพิ่มขึ้น 3.25 จุด หรือ +0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,556.77 จุด ลดลง 7.12 จุด หรือ -0.11%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) ขานรับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ประกาศขยายเวลาการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปจนถึงปี 2562 เป็นอย่างน้อย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดพุ่งขึ้น 1.1% แตะระดับ 391.27 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,133.28 จุด เพิ่มขึ้น 179.87 จุด หรือ +1.39% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,455.40 จุด เพิ่มขึ้น 80.51 จุด หรือ +1.50% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,486.50 จุด เพิ่มขึ้น 39.29 จุด หรือ +0.53%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) ตามทิศทางของตลาดหุ้นยุโรป ภายหลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ประกาศขยายเวลาซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปจนถึงปี 2562 เป็นอย่างน้อย
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 39.29 จุด หรือ +0.53% ปิดที่ 7,486.50 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินและสต็อกน้ำมันกลั่นปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย ได้แสดงความต้องการที่จะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปจนถึงสิ้นปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 52.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. 2560
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 59.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 เดือนก.ค. 2558
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.40 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ระดับ 1,269.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.ปีนี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 11.4 เซนต์ หรือ 0.67% ปิดที่ 16.811 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 4.6 ดอลลาร์ หรือ 0.50% ปิดที่ 922.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 10 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 968.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1668 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1810 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3165 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3255 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7674 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7698 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.93 เยน จากระดับ 113.72 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9967 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9888 ฟรังก์สวิส