SET ไซด์เวย์ขาขึ้น เก็ง 11 หุ้นกำไรโต กลุ่มท่องเที่ยวเด่น
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ไซด์เวย์ในกรอบขาขึ้นตามภาวะตลาดต่างประเทศโดยรวมที่เป็นบวก การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มผลกำไรไตรมาส 3 จะออกมาดี และกลุ่มที่ได้ปัจจัยบวกช่วง High Season ของการท่องเที่ยว
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.45 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.26 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น หลังดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐปิดในแดนบวก ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งแรงหนุนจากรายงานที่ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไฟเขียวร่างงบประมาณปี 2561 ฉบับวุฒิสภา ซึ่งจะเป็นการปูทางให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้ามาตรการปฏิรูปภาษี
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ไซด์เวย์ในกรอบขาขึ้นตามภาวะตลาดต่างประเทศโดยรวมที่เป็นบวก การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มผลกำไรไตรมาส 3 จะออกมาดี และกลุ่มที่ได้ปัจจัยบวกช่วง High Season ของการท่องเที่ยว หุ้นเด่นเลือก SUSCO, PTT, ESSO, BEAUTY, HMPRO, CPALL, AMATA, WHA, MINT, CENTEL และ ERW
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (27 ต.ค.) แกว่ง Sideway up เนื่องจากตลาดต่างประเทศเป็นบวก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกราว 0.3 – 0.4% ซึ่งจะบวกในตลาดแถบเอเชียเหนือเป็นส่วนใหญ่ หลังผลกำไรของบริษัทในสหรัฐฯเป็นบวก และผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ให้มีการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยปัจจุบันมีวงเงินการทำ QE อยู่ 60,000 ล้านยูโร/เดือน จะให้คงไว้ถึงสิ้นปีนี้ และจะลดขนาด QE ลงเหลือ 30,000 ล้านยูโร/เดือน ในม.ค.ปีหน้า ซึ่งจะทำต่อไปจนถึง ก.ย. 61 แต่หากมีความจำเป็นยังสามารถขยายการทำ QE ได้
พร้อมกันนี้ให้ติดตามตัวเลข GDP งวดไตรมาส 3/60 ของสหรัฐฯที่จะประกาศวันนี้ ส่วนปัจจัยในประเทศให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์หน้า และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนด้วย
นอกจากนี้ ให้ติดตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ขณะนี้เริ่มแข็งค่าแล้ว และการปรับขึ้นของ Bond yield ที่ขณะนี้อยู่มากกว่า 2.4% แล้ว ทำให้เงินบาทอ่อนค่าเริ่มเห็นชัดขึ้น ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกมา และอาจทำให้ตลาดผันผวน พร้อมให้แนวรับ 1,700 – 1,705 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,712 ถัดไป 1,718 – 1,720 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) ว่า SET มีจังหวะปรับสูงขึ้นต่อระยะสัปดาห์ เป้าหมาย 1,740 จุด โดยไม่ได้กังวลต่อความ “ผันผวน” ระยะสั้น ล่าสุด 1) การใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายของ ECB ยังหนุนสภาพคล่อง โดย ECB จะต่ออายุ QE ไปถึง ก.ย. 18 วงเงิน EUR3 หมื่นล้าน/เดือน และมองดอกเบี้ยจะยังต่ำนาน ส่งผลเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นเทียบยูโร 2) เศรษฐกิจไทย และกำไรบริษัทจดทะเบียนอยู่ในช่วงถูกปรับประมาณการขึ้น (Upward revision) 3) แรงหนุนจากกองฯ LTF ปลายปีนี้อีกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
“ซื้อ” SUSCO (พื้นฐาน 5.50 บาท) กำไรที่เร่งตัวขึ้นใน 3Q17 และ valuation ไม่แพงที่ PE18 10.8 เท่า เทียบกับการเติบโตกำไร 23 – 24% ในปี 2018-19 จากการขยายสาขา, ปริมาณขยายน้ำมันเพิ่ม, เพิ่มสัดส่วนค่าเช่า และค่าการตลาดสูง ประเมินแนวต้าน 4.30 บาท และ “ซื้อ” :- 1) กลุ่มหุ้นที่กำไร 3Q17 จะออกมาดี : กลุ่มพลังงาน-โรงกลั่น และค้าปลีก ชอบ PTT ESSO BEAUTY HMPRO CPALL 2) กลุ่มนิคมฯ คาดกฎหมาย EEC คืบหน้าภายในสิ้น พ.ย. ชอบ AMATA WHA 3) Laggard play ในกลุ่มโรงแรมที่เข้าสู่ช่วง high season ชอบ MINT
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) ประเมินดัชนี SET ยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,695 – 1,715 จุด ระหว่างรอผลประกอบการกลุ่ม Real Sector แนะนำซื้อหุ้นกลุ่มโรงแรม เช่น CENTEL, ERW, MINT คาดได้ปัจจัยบวกช่วง High Season ของการท่องเที่ยว