จุดวัดใจ

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*อาการที่ดัชนีพยายามสู้สุดตัว ก่อนกระชากขึ้นพรวดเดียว จนมาปิดที่ระดับ 1,716.03 จุด บวกไป 7.19 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.99 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นตอกย้ำสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยยังไม่นิ่งเท่าที่ควร แรงซื้อถึงกระจัดกระจาย ไม่เป็นรูปขบวนเหมือนก่อนหน้านี้ ผสมผสานกับบรรยากาศของตลาดหุ้นต่างประเทศที่พากันเขียวยกแผง ย่อมเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยพลอยรับอานิสงส์ไปด้วยนะคะ

*ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่สถานการณ์หลายอย่างทำให้นักลงทุนอึดอัดใจอย่างแรง เพราะในมุมของข่าวสารที่ปรากฏให้เห็นในเที่ยวนี้ มันเดินมาถึงจุดพีคของเรื่องอีกครั้งหนึ่ง จึงต้องขอเวลาพักเอาแรงสักระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นจะเริ่มไต่ระดับขึ้นไปอีกครั้ง “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องกลับมาทบทวนรูปแบบการลงทุนอย่างเร่งด่วน เพื่อทำให้ช่วงระยะเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนของปี 60 เป็นการลงทุนอย่างสบายใจเฉิบนะคะ

*ส่วนคนที่รู้สึกไม่มั่นใจในฝีไม้ลายมือของตัวเอง อาจใช้ช่วงเวลาดังกล่าวปลีกวิเวกเป็นการชั่วคราวก่อนก็ได้ เพราะของมันเห็นกันมาหลายรอบแล้วว่า ดัชนีขึ้นมายืนแถว 1,730 จุดทีไร..ไปต่อไม่เป็นสักที! “โมนิก้า” ถึงมีความมั่นใจเล็กๆ ว่า อย่าทำตัวสวนกระแสท่ามกลางความขมุกขมัวของข่าวสาร เพราะผลลัพธ์ที่ออกมาในแต่ละรอบ เดี๊ยนเห็นมีแต่คนเจ็บตัวนะจะบอกให้

*สำหรับหุ้นที่มาเหนือเมฆอย่างพ่อดอกมะลิ TTCL ก็พุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ 20 บาท บวกไป 4.10 บาท หรือขึ้นไป 25.80% ด้วยมูลค่า 3.18 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่แฟนคลับต้องใช้ความว่องไวมากเป็นพิเศษ เพราะหุ้นนอนนิ่งเกือบเดือน เผลอแป๊บเดียวหุ้นเด้งขึ้นอย่างรวดเร็วแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่น่าคิดไม่ใช่น้อยว่า หุ้นจะวิ่งไปได้ไกลแค่ไหน?…ใครรู้ช่วยตอบด้วยเจ้าค่ะ

*ในเมื่อกระแสเอื้อให้สุดๆ หุ้นพลังงานดาวเด่นอย่างเช่น BCPG ก็ฉวยโอกาสทะยานขึ้นมาปิดที่ 22.70 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 1.84 พันล้านบาทอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทำ new high อย่างต่อเนื่อง “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่ต้องไหลตามน้ำ  และอยากให้ผู้เล่นย้อนกลับไปดูการขยับตัวในรูปแบบ “ขึ้นแรง พักฐาน” วันนี้น่าจะถึงเวลานั้นเสียที..ส่วนจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า? เดี๋ยวรู้ผลพะยะค่ะ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นของ GPSC ตั้งแต่เช้าจรดเย็นนั้น “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องทำความเข้าใจนิดหนึ่งว่า ทุกครั้งที่นักลงทุนสถาบันหวนกลับเข้ามาเล่นทีไร พร้อมกับมีการพูดถึงราคาหุ้นต่ำกว่าราคาเหมาะสม มักทำให้นักเล่นกระโจนใส่มือเป็นระวิง เมื่อวันศุกร์ที่แล้วถึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 61.75 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่า  611 ล้านบาท มันทำให้เชื่อเช่นนั้นจริงๆ นะคะ

*แพทเทิร์นดังกล่าวคล้ายคลึงกับ MACO กระชากขึ้นมาปิดที่ 2.20 บาท บวกไป 0.16  บาท หรือขึ้นไป 7.80 %  ด้วยมูลค่า  564 ล้านบาท ก็เป็นการวัดใจนักเล่นจะดันหุ้นขึ้นไปหาราคาเป้าหมาย 2.40 บาทได้หรือเปล่า? นี่ถึงเป็นจังหวะที่นักเล่นได้มีโอกาสได้ทบทวนความไวของตัวเองอีกครั้ง ส่วนใครที่คิดไม่ทันเกมของพวกขาปั่นน่องเหล็ก สามารถถอยฉากก่อนก็ได้นะคะ

*ส่วนในรายของ CKP หลังจากทำท่าจะไปไม่รอด โดนเทขายออกมาเรื่อยๆ สุดท้ายก็ฝ่าแรงเทขายขึ้นมาปิดที่ 4.28 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่า 405 ล้านบาท พร้อมกับทำทดสอบแนวต้าน 4.40 บาทเป็นครั้งที่ 2  “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในเที่ยวนี้ หลังมีการตั้งสมมุติฐานกันว่า ทุกอย่างจะออกมาสวยงามตามที่คาดหวัง ทั้งที่วันนี้ยังไม่ชัดเจนเลยสักเรื่องแบบนี้..เชื่อหรือไม่ ก็อยู่ที่ตัวผู้เล่นคิดอย่างไรนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ UV หากมองตามรูปการที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ ก็มีแพทเทิร์นคล้ายคลึงกับรายข้างต้น แต่ต่างกันนิดหนึ่งตรงที่หุ้นผ่านกระบวนการย่ำฐานมาระยะหนึ่ง บวกกับวานนี้กระชากขึ้นแรงเป็นวันแรก ส่งผลให้ราคาปิดที่ 11.60 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 7.40% ด้วยมูลค่า 580 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกนิดหน่อย เพราะสัปดาห์ก่อนหุ้นเพิ่งวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 12 บาท รอบนี้ก็น่าจะวิ่งขึ้นไปทดสอบได้อีกครั้งนะจะบอกให้

*ไหนๆ ก็เม้าท์ถึงจังหวะ follow buy ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนกลับไปดู WHAUP หุ้นที่มีการไล่ราคากันดุเดือดเป็นพักๆ แถมทุกครั้งที่เผลอ มักมีช็อตเด็ดกีฬามันให้ดูเป็นประจำ ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.80 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 6.85% ด้วยมูลค่า 330 ล้านบาท กลายเป็นตัวแปรที่ทำให้นักเล่นต้องรีบตัดสินใจเคาะขวาในทันที เพราะทิศทางและน้ำหนักมันเอื้อให้เล่นต่อนะซี

*ส่วนคนที่ชอบของร้อน “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดูน้ำแข็งใส AU กลับไล่ราคากันอีกรอบ ทั้งที่เห็นกันเต็มสองลูกตาว่า โอเว่อร์แอ๊คติ้ง แต่ยังมีแห่ตามกันเป็นพรวน จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 11.20 บาท บวกไป 0.40  บาท หรือขึ้นไป 3.70% มันเป็นทางเลือกที่ผู้เล่นสามารถกำหนดเงินในกระเป๋าตัวเองได้ น้องโมไม่จำเป็นต้องเสนอความคิดมากกว่านี้ เพราะแค่มองค่า P/E 88 เท่าก็รู้แล้วว่า ลากไปออกของนะคะ