พาราสาวะถี

ยังไม่เคยชินกันหรืออย่างไรหรือคิดว่าสิ่งที่ผู้มีอำนาจพูดมานั้นน่าเชื่อถือทั้งหมด นักการเมืองทั้งหลายถึงได้ปักใจว่า คสช.จะปลดล็อคให้ทำกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป แต่พอได้ยิน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้สัมภาษณ์ล่าสุด ก็พบความจริงว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น โดยเหตุผลหลักของพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์คือความมั่นคง


อรชุน

ยังไม่เคยชินกันหรืออย่างไรหรือคิดว่าสิ่งที่ผู้มีอำนาจพูดมานั้นน่าเชื่อถือทั้งหมด นักการเมืองทั้งหลายถึงได้ปักใจว่า คสช.จะปลดล็อคให้ทำกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป แต่พอได้ยิน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้สัมภาษณ์ล่าสุด ก็พบความจริงว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น โดยเหตุผลหลักของพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์คือความมั่นคง

บิ๊กป้อมบอกว่า คสช.ยังไม่ได้ประชุมกันในเรื่องนี้ เพราะงานพระราชพิธีเพิ่งจะเสร็จสิ้น ดังนั้น จะมาทำอะไรกัน และจะมาทวงสัญญาอะไร เพราะคสช.ต้องพิจารณาถึงความร่วมมือต่างๆ ก่อน รวมถึงในแต่ละพื้นที่ต่างๆ ด้วย ที่ผ่านมาฝ่ายที่ทำให้เกิดความวุ่นวายยังดำเนินการกันมาตลอด ส่วนที่เคยระบุไว้ว่า 1 พ.ย.จะปลดล็อคให้พรรคการเมืองนั้น คสช.ยังไม่ได้ประชุมร่วมกันในเรื่องนี้

ลีลาพลิกพลิ้วแบบพื้นๆ แต่ได้ผล เนื่องจากไม่มีใครไปกดดันหรือเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้ เพราะผู้มีอำนาจมีมาตรายาวิเศษและกฎหมายพิเศษอยู่ในมือ นักการเมืองอาชีพจึงทำได้เพียงโวยวายตีโพยตีพายแล้วก็ผ่านไปกับสายลม ทว่าเสียงเรียกร้องที่เล็ดลอดมานั้นน่าสนใจ ที่เสียงอันขึงขังจริงจังมาจากคนของพรรคประชาธิปัตย์เป็นด้านหลัก

โดย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เห็นว่า หากปลดล็อคช้าพรรคการเมืองอาจดำเนินการไม่ทันตามกฎหมายที่มีกรอบระยะเวลา เพราะผ่านมากว่า 1 เดือนแล้วหลังกฎหมายประกาศใช้ พรรคการเมืองมีงานต้องทำในการเตรียมการเลือกตั้ง หากปลดล็อคช้าก็เฉียดฉิวและน่าจะมีปัญหา ขณะเดียวกันหากดูตามกฎหมาย เมื่อกฎหมายเดินแล้วก็ไม่มีเหตุที่จะไปใช้อำนาจซ้อน

ยืนยันและหนักแน่นในหลักการ แต่คงใช้ไม่ได้กับรัฐบาลที่เขาไม่ได้ยึดถือเรื่องกลไกของประชาธิปไตยเป็นสำคัญ มากไปกว่านั้น ไม่ว่าจะมีกฎหมายใดมาค้ำคอแต่เมื่อถืออำนาจวิเศษอยู่ในมือ จะต้องไปกลัวอะไร ประกอบกับผู้มีอำนาจยังเชื่อมั่นว่า การลากยาวออกไปโดยใช้เหตุผลใดมาอธิบาย ฝ่ายกองหนุนที่ไม่ชอบการเลือกตั้งก็เชื่อและเชียร์อยู่ดี

อย่างไรก็ตาม ในฐานะพรรคเจ้าของทฤษฎีที่เชื่อว่าผู้มีอำนาจจะทอดเวลาการเลือกตั้งออกไปเพื่ออยู่ในตำแหน่งให้นานที่สุด เสียงจาก มัลลิกา บุญมีตระกูล จึงออกมาในทำนองพลเอกประวิตรจะพูดอะไรก็แล้วแต่ เอาที่สบายใจ เพราะถือว่ามีอำนาจในการพิจารณา แต่ก็หวังว่าจะไม่ปล่อยให้เลยเวลาจนอาจเข้าข่ายวางยาพรรคการเมืองจนดำเนินการทางกฎหมายไม่ทัน และจะต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป

แต่ดูเหมือนว่าทางด้านพรรคเพื่อไทยจะเดินไปในทิศทางเดียวกัน โดย วัฒนา เมืองสุข โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรียกร้องผู้มีอำนาจเลิกถ่วงเวลาได้แล้ว พร้อมระบุว่ากฎหมายพรรคการเมือง 2560 ถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นผลให้พรรคการเมืองมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายภายใน 180 วัน

ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการให้มีสมาชิกครบตามจำนวนที่กำหนด จัดให้มีทุนประเดิมครบ 1 ล้านบาท จัดให้สมาชิกชำระค่าบำรุงพรรค จัดให้มีการประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับฯ เลือกหัวหน้า เลขาฯ และกรรมการอื่นของพรรค รวมถึงจัดตั้งสาขาพรรคให้ครบ คสช.ควรรีบปลดล็อคพรรคการเมืองนำประเทศเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย

เช่นเดียวกับ ร้อยโทหญิงสุณิสา เลิศภควัต ที่บอกว่า คสช.ควรจะเลิกถ่วงเวลาในการปลดล็อคพรรคการเมือง เพราะเกรงว่าจะทำให้พรรคการเมืองขนาดเล็กจำนวนมากต้องสูญพันธ์หรืออาจถูกยุบพรรค เนื่องจากขาดคุณสมบัติในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง โดยเฉพาะพรรคขนาดเล็กและมีระบบไม่แข็งแรง เนื่องจากอาจไม่สามารถทำตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกฎหมายพรรคการเมืองใหม่ได้

ส่วนพรรคการเมืองเก่ามีเวลาดำเนินการเหลือแค่ 157 วันเท่านั้น ไม่ถึง 180 วันตามที่กฎหมายกำหนด และจะยิ่งนับถอยหลังลงไปเรื่อยๆ ทุกวัน แต่คสช.กลับทำเป็นเฉยเมยเรื่องปลดล็อคพรรคการเมือง เหมือนกับจงใจให้พรรคการเมืองทำงานไม่ทัน อีกทั้งยังต้องเผื่อเวลาให้กกต.ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ด้วย

ทุกคำถามล้วนเป็นไปด้วยเหตุและผล แต่พอเป็นนักการเมืองพูดมันทำให้น้ำหนักความน่าเชื่อถือลดน้อยลงไปในทันที ซึ่งก็ถือเป็นปกติธรรมดาของพวกที่มีต้นทุนต่ำ และดูเหมือนว่าประเด็นปลดล็อคในห้วงระยะเวลาอันใกล้น่าจะจบในทันทีทันใด ไม่ใช่เพราะบิ๊กป้อมยืนยัน แต่มาจากการคาดการณ์ของ “ครูหยุย” วัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสนช.

มุมของครูหยุยคือ รัฐบาลควรจะพิจารณาปลดล็อคให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างน้อยต้นปี 61 เพราะขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญใหม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองค่อนข้างเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สมาชิกพรรค การเก็บค่าสมาชิก กรรมการบริหารพรรค เตรียมหาผู้สมัคร ซึ่งต้องใช้เวลานานพอสมควร ดังนั้น จึงควรให้เวลาในการเตรียมตัว

มองอย่างเข้าใจและเห็นใจ แต่สุดท้ายทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ หากยังเห็นว่ามีแรงกระเพื่อมและความเคลื่อนไหวที่ทำให้ไม่สบายใจ ก็ยากที่จะคลายความเข้มงวดให้นักการเมืองและพรรคการเมืองได้หายใจหายคอ เมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เชื่อว่านักการเมืองส่วนใหญ่อยากเห็นคงเป็นความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน

เป็นธรรมชาติที่ใดมีความเดือดร้อนหากได้รับการเยียวยาแก้ไข ทุกอย่างย่อมผ่านพ้นไปได้ ในทางตรงข้ามหากยังถูกเพิกเฉยและทำท่าว่าสถานการณ์นั้นจะย่ำแย่ลงไปอีก ความอดทนของคนย่อมมีจำกัด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเห็นท่านผู้นำรีบลงไปพบปะช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพราะเข้าใจดีว่านี่จะเป็นปัจจัยหนึ่งของการสะท้อนภาพการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนภายใต้รัฐบาลคสช.

ขณะที่พยายามลากยาวเกมปลดล็อคพรรคการเมืองออกไป ในอีกด้านผู้มีอำนาจก็ต้องภาวนาให้มาตรการต่างๆ ที่ได้ลงมือไปประสบผลสำเร็จ คนรากหญ้าและสารพัดกลุ่มปัญหาที่เห็นเด่นชัดคือเกษตรกรไม่ว่าจะชาวนา ชาวสวนยางพารา ถ้าสถานการณ์ยังคงเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ ความเชื่อถือเชื่อมั่นมันก็จะต่ำเตี้ยเรี่ยดินลงด้วยเช่นกัน นี่คือสัจธรรมของอำนาจและการเมือง

Back to top button