SET พักฐาน เก็งกำไร 12 หุ้นร้อน แบงก์ – รับเหมาฯเด่น
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ฟื้นตัวได้จำกัด และมีโอกาสพักฐานสูงหลังลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 1,705 จุด ขณะที่การอ่อนตัวของดัชนีเป็นจังหวะในการเลือกเก็บหุ้น
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.40 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.09 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้ หลังดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืน ขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ฟื้นตัวได้จำกัด และมีโอกาสพักฐานสูงหลังลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 1,705 จุด ขณะที่การอ่อนตัวของดัชนีเป็นจังหวะในการเลือกเก็บหุ้น เช่น ESSO, SPRC, BEAUTY, HMPRO, KBANK, TMB, TISCO, KKP, IVL, CK, STEC และ UNIQ
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (3 พ.ย.) คาดว่าจะฟื้นตัวได้จำกัด เนื่องจากดัชนีฯได้ลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1,705 จุด ทำให้มีความเสี่ยงในการพักฐานสูง โดยมี Downside แถว 1,670 จุด แต่ก็สามารถกลับมาเพิ่มการลงทุนได้ในจุดนี้เช่นกัน เนื่องจากตลาดฯได้รับรู้ข่าวดีไปแล้ว ทั้งเรื่องประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ และมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะคงจะเป็น Story ในปีหน้า ดังนั้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวทรงตัว
พร้อมกันนี้ได้มองว่า Downside ของตลาดฯที่ 1,670 จุด ลงมาราว 30 จุด คิดเป็น 2% ซึ่งมองแล้วตลาดฯไม่ได้ลงมาก แต่หากมองที่หุ้นรายตัวมีโอกาสที่จะปรับลงได้มากกว่าตลาดฯ ดังนั้น ควรจะระวังแรงขาย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น ที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว ขณะที่ในไตรมาส 4/60 มีโอกาสที่ค่าการกลั่นจะเข้าสู่ขาลง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในไตรมาส 3/60 ที่จะออกมาในช่วงนี้ โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่น
พร้อมให้แนวรับ 1,695 จุด ส่วนแนวต้าน 1,705 – 1,710 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (3 พ.ย.) ว่า แรงขายกลุ่มสื่อสาร จากความกังวลประมูลคลื่น 900 – 1800MHz ปีหน้ากดดัน SET ปรับลดลงแรงวานนี้ ขณะที่มีสัญญาณ Sector Rotation ต่อเนื่อง โดยกลุ่มโรงกลั่น (เป็นโอกาส “ซื้อ” ESSO SPRC – ปันผลสูง 9%) ค้าปลีก (เป็นโอกาส “ซื้อ” BEAUTY HMPRO – ผลดีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี) และสื่อสาร จะอ่อนแอกว่าตลาด ขณะที่กลุ่มธนาคาร
(ตั้งสำรองลดลงปีหน้า) รับเหมาฯ (Laggard play) จะเด่นกว่าตลาด ขณะที่ Sector Rotation ดำเนินต่อไป ชอบกลุ่มธนาคาร รับเหมาฯ
1) กลุ่มธนาคาร อย่าง KBANK ส่งสัญญาณ “บวก” ต่อแนวโน้มการตั้งสำรองที่ลดลงในปีหน้า รวมถึง TMB ที่มี NPL ต่ำ รวมถึง TISCO KKP
2) “ซื้อ” IVL (TP 55) นอกจากได้ผลดีราคาผลิตภัณฑ์สูง ความคืบหน้าลดภาษีทรัมป์ ส่งผลดีต่อรายได้ที่มาจากธุรกิจในสหรัฐฯ ด้วย
3) “ซื้อ” STEC (TP 33) จาก 1) ราคาหุ้น laggard ตลาดมาก 2) คาดเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวเนื่องกับ EEC 3) Backlog สูง 1.07 แสนล้านบาท คิดเป็น 6 เท่า ของรายได้ปี 2016 4) คาดกำไรโต 36-44% ปี 2017-18
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (3 พ.ย.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ วางแนวรับบริเวณ 1,700 จุด หากยืนไม่ได้แนะนำลดพอร์ตลง 20% เนื่องจากดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวระหว่างรอการรายงานผลประกอบการ Q3/60 โดยหุ้นแนะนำวันนี้ คือกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น CK, STEC, UNIQ (+ แผนลงทุนคมนาคมปี 61 วงเงิน 2.39 ลล.บาท)