MGT เฉาเหลือเกิน

ต้องขอเรียนตามตรงว่า MGT เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่อาจารย์ไม่ได้ติดตามดูข้อมูล และไม่มีข้อมูลที่จะประเมินสถานการณ์ของบริษัทจะเดินไปในทางไหน จึงขอบรรยายจากความรู้สึกส่วนตัวเพื่อประกอบการลงทุนแล้วกันนะครับ


ตีแผ่บจ.ดัง

คุณเด่นชัย จาก อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พูดถึงภาพของหุ้น MGT หรือ บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา และไม่มีอะไรให้ติดตามเหมือนหุ้นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาด mai  จึงสงสัยสาเหตุที่ทำให้หุ้นตัวนี้ไม่โดดเด่น น่าจะมาจากธุรกิจไม่มีอะไรน่าสนใจ Growth ไม่โตเหมือนกับที่คิดไว้ในช่วงแรกๆ ซึ่งจะทำให้หุ้นยืนได้ลำบาก เลยอยากให้อาจารย์ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ

 

ต้องขอเรียนตามตรงว่า MGT หรือ บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่อาจารย์ไม่ได้ติดตามดูข้อมูล และไม่มีข้อมูลที่จะประเมินสถานการณ์ของบริษัทจะเดินไปในทางไหน จึงขอบรรยายจากความรู้สึกส่วนตัวเพื่อประกอบการลงทุนแล้วกันนะครับ

โดยสิ่งหนึ่งที่อาจารย์สัมผัสได้จากหุ้นตัวนี้ก็คือ ธุรกิจค่อนข้างทำความเข้าใจยาก ซึ่งส่งผลให้คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการเคมีภัณฑ์มองทิศทางของบริษัทค่อนข้างลำบาก และทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่มองข้ามหุ้นตัวนี้ไปในทันที เพราะยังมีหุ้นตัวอื่นที่ทำความเข้าใจได้ง่ายกว่า

ประเด็นดังกล่าวดูได้จากคำนิยามที่ MGT แจ้งไว้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ประเภทเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty Chemical) สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นเคมีภัณฑ์ที่ใช้เป็นส่วนเติม (Additive) ในส่วนประกอบหลักเพื่อทำปฏิกิริยาเคมีภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติหรือคุณลักษณะตามที่ต้องการ ให้แก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ

เพียงเท่านี้ก็ทำให้นักลงทุนถอดใจในทันที เพราะเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า MGT เกี่ยวพันกับหลายธุรกิจมาก จึงยากต่อการประเมินตัวเลขรายได้ และกำไรด้วยตนเอง

ถึงกระนั้นอาจารย์ก็ไปสืบค้นบทสัมภาษณ์เก่าของ “ดร.วิทยา อินาลา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  MGT ซึ่งเล่าให้ฟังว่า  บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 2560 เติบโตที่ระดับ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 561.15 ล้านบาท จากภาพรวมของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯสามารถหาลูกค้าสำหรับเคมีภัณฑ์กลุ่มใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้น รวมถึงยังสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้

ขณะเดียวกันเมื่อดูจากรายได้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 อยู่ในระดับ 299.08 ล้านบาท  มีกำไรสุทธิ 21.87  ล้านบาท  และกำไรต่อหุ้น 0.06 บาท โดยราคาหุ้นในกระดานล่าสุดวนเวียนอยู่ที่ระดับ 3 บาทต้นๆ และเป็นการเทรดบนค่า P/E  33 เท่า ย่อมเป็นการเดิมพันที่สูงสำหรับคนที่จะเล่นหุ้นตัวนี้

เนื่องจากตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม ที่หุ้นขึ้นไปยืนแถว 3.74 บาท หลังจากนั้นหุ้นก็แกว่งตัวในลักษณะ side way down มาโดยตลอด จึงน่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล (หุ้นลงต้องมีข่าวไม่ดี) และทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลที่อาจารย์ประเมินจากประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ นะครับ

เชื่อหรือไม่เชื่อ ลองไปพิจารณากันอีกที เพราะอาจารย์ก็ไม่ได้รู้ไปหมดทุกเรื่องเหมือนกัน!

กราฟประกอบคอลัมน์ : Aspen ราคาปิด ณ วันที่ 3 พ.ย.60

Back to top button