ปรับเพื่อน ปรับใหญ่
หลังอธิบดีกรมการจัดหางานโดน ม.44 เด้งฟ้าผ่า พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงานก็ยื่นใบลาออกทันที โดยนายกฯบอกว่าลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัว
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
หลังอธิบดีกรมการจัดหางานโดน ม.44 เด้งฟ้าผ่า พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงานก็ยื่นใบลาออกทันที โดยนายกฯบอกว่าลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัว
ไม่ได้ลาออกเพราะน้อยใจ แค่ลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัว น่าจะมีใครทำโพลล์ถามเด็กอมมือ ว่าเชื่อหรือไม่
การปรับเปลี่ยน รมต.หรือ รมต.ลาออก ไม่แปลกอะไร เพียงน่าแปลกใจเหตุใดจึงใช้ ม.44 ย้ายอธิบดีโดย รมต.ไม่รู้ตัว จนมีข่าวน้อยใจ “ถูกลบเหลี่ยม” เพราะเป็นอธิบดีที่ รมต.ไว้วางใจ ก่อนนี้ก็ย้ายจรินทร์ จักกะพาก จากมหาดไทยมาเป็นปลัดแรงงานฯ ทั้งที่ รมต.จะเอาคนใน
ไม่ทราบเหมือนกันว่า พล.อ.ประยุทธ์คิดอย่างไร ข่าวในหน้าสื่ออ้างว่าอธิบดีกรมการจัดหางานไม่สนองนโยบายจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตา เพื่อพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว แต่กระทรวงแรงงานก็แถลงปฏิเสธ
ว่าตามเนื้อผ้า ถ้าย้อนมอง พรก.แรงงานต่างด้าว ค่าปรับ 4 แสน 8 แสน ทำเศรษฐกิจปั่นป่วน SME แตกตื่นส่งคนงานส่งกลับบ้านหนีตาย ก็สมควรอยู่นะ ที่ทั้ง รมต.และข้าราชการกระทรวงแรงงานต้องรับผิดชอบ เพียงอย่าลืมว่า พรก.ต้องผ่านมติ ครม. ซึ่งนั่งอยู่ทั้งคณะ อนุมัติไปได้อย่างไร จนเห็นว่าเสียหายหนัก จึงออก ม.44 แก้ไข ฉะนั้นจะโทษ รมต.แต่ผู้เดียวคงไม่ได้
ถ้าจะปลด ก็น่าปลดเสียตอนนั้น ตอนนี้กลับมาเด้งอธิบดีจน รมต.ลาออก ภาพที่ออกมาก็กลายเป็น “เชือดน้องรัก” อย่างช่วยไม่ได้
และกลายเป็นแรงกดดันต่อไปว่า พล.อ.ประยุทธ์จะปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่หรือไม่ โดยไม่เกรงใจใคร ไม่ว่าพี่ เพื่อน น้อง เพื่อเอามืออาชีพมาทำงานแทนทหาร
ซึ่งโดยทิศทางก็ควรเป็นเช่นนั้น ควรปรับใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนไปสู่เลือกตั้ง ไม่ว่าต้องการยื้อยาว (เพราะยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองเสียที) หรือต้องการสร้างเครดิต เพื่อสืบต่อหลังเลือกตั้ง หรืออย่างน้อยก็ลดแรงกดดัน ที่ชาวบ้านบ่นกันขรมเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง
เพียงแต่ตอนนี้ “ตำบลกระสุนตก” ดันไปอยู่ที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ เพื่อนซี้ ซึ่งทุกฝ่ายชี้เป้า ไม่ว่าสื่อ นักการเมือง พท. ปชป. กปปส. เพราะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ทั้งราคาข้าว ราคาพืชผลต่างๆ
แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า “บิ๊กตู่” เป็นคนรักเพื่อน ทหารยึดม็อตโต้ “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” อยู่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยิ่งรักเพื่อนสุดๆ ในก๊วนกอล์ฟ ก็มีแต่เพื่อนสนิท และมักจะรับฟังคำแนะนำของเพื่อนมากกว่าคนอื่น
กระนั้น เมื่อเชือดน้องแล้ว จะไม่เดินหน้าต่อก็กระไรอยู่ และถ้ามองให้กว้างออกไป หากจำต้องปรับเพื่อนรัก จะปล่อยคนอื่นไว้ทำไม โค้งสุดท้ายแล้วควรปรับใหญ่ ใครทำงานไม่ดี ทำงานไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยน ไม่เฉพาะรัฐมนตรี แต่รวมถึงทหารที่ไปนั่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆ
พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ที่มาจากทหาร แต่วันนี้ ไม่จำเป็นต้องพะวงฐานกำลังในกองทัพ เพราะระบอบ คสช.สร้างสถาบันกองทัพเป็นเสาหลักของระบอบ มีอำนาจ มีบทบาท มีงบประมาณ มีสถานะมั่นคงตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 ไปอีกหลายปี
กองทัพพึงพอใจในสถานะที่เป็นอยู่ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้รับความนิยมจากคนชั้นกลางในเมือง ฉะนั้น กองทัพไม่มีวันโค่น พล.อ.ประยุทธ์ มีแต่จะเป็นเสาค้ำ เพราะผูกชะตาร่วมกัน เมื่อไหร่ระบอบนี้พัง กองทัพก็ถูก “เอาคืน” เรื่องที่จะมีใครอยากนั่งเก้าอี้แทน เลิกคิดได้ ไม่มีทหารนายไหนอยากเป็น “หนังหน้าไฟ”อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นอยู่ตอนนี้
พล.อ.ประยุทธ์ จึงควรตระหนัก ว่าความมั่นคงของท่านอยู่ที่คะแนนนิยม ไม่ได้อยู่ที่เพื่อนพ้องน้องพี่คนไหนเลย