“มิตรสิบ ลิสซิ่ง” ยื่นไฟล์ลิ่งขาย IPO 167 ล้านหุ้น จ่อเข้าเทรด mai

"มิตรสิบ ลิสซิ่ง" ยื่นไฟล์ลิ่งขาย IPO 167 ล้านหุ้น จ่อเข้าเทรด mai หวังระดมทุนใช้ขยายสินเชื่อ-คืนเงินกู้-เป็นทุนหมุนเวียน โดยมี บล.เออีซี เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


บริษัท มิตรสิบ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 167 ล้านหุ้น และและมีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บล.เออีซี เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

โดยวัตถุประสงค์ของการใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อขยายการให้สินเชื่อเช่าซื้อและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน โดยคาดว่าจะใช้เงินภายในปี 61

อนึ่ง บริษัทประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire  Purchase) ธุรกิจหลักของบริษัทสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ บริการสินเชื่อเช่าซื้อ, การจำหน่ายรถแท็กซี่ และบริการเสริมอื่น ๆ ทั้งการให้บริการสินเชื่อกรมธรรม์ประกันภัย,  การให้บริการต่อ พ.ร.บ. ทะเบียนรถ และตรวจสภาพรถ, การให้บริการลูกค้าสัมพันธ์

ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อในปัจจุบันของบริษัท สามารถแบ่งลักษณะตามประเภททรัพย์สินที่ให้เช่าซื้อได้ดังนี้ การให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถแท็กซี่มิเตอร์ป้ายแดง, การให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถแท็กซี่มิเตอร์มือสอง, การให้บริการสินเชื่อใหม่ (รีไฟแนนซ์), การให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถโดยสารประจำทาง และการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุก

สำหรับโครงการในอนาคต บริษัทจะนำเงินที่จากการระดมทุนครั้งมาใช้ในการขยายการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ มูลค่าไม่น้อยกว่า 562 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีโครงการขยายธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ  รวมถึงโครงการขยายสาขาของบริษัทให้ครอบคลุมการให้บริการในพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น และอีกส่วนหนึ่งจะใช้เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงปี 57-59 บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 249.84 ล้านบาทในปี 57 มาเป็น 485.78 ล้านบาทในปี 59 ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นจาก 12.54 ล้านบาทในปี 57 เป็น 62.27 ล้านบาทในปี 59

ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปี 60 บริษัทมีรายได้รวม 236.13 ล้านบาท ต้นทุนขาย 153.58 ล้านบาท กำไร 30.70 ล้านบาท ขณะที่มีสินทรัพย์รวม 947.51 ล้านบาท หนี้สินรวม 635.67 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 311.84 ล้านบาท

โดย ณ วันที่ 21 มี.ค.60 บริษัทมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วทั้งสิ้น 250 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนหุ้นทั้งหมด 500 ล้านหุ้น ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้แล้วจะมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 333.50 ล้านบาท

ด้านผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ กลุ่มครอบครัวยงศ์สงวนชัย ถือหุ้น 253,450,000 หุ้น คิดเป็น 50.69% หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 38%, กลุ่มครอบครัวมั่งมี ถือหุ้น 45,000,000 หุ้น คิดเป็น 9% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 6.75%, กลุ่มครอบครัวเลียวตระกูล ถือหุ้น 27,800,000  หุ้น คิดเป็น 5.56% จะลดสัดส่วนถือหุ้นลงเหลือ 4.17%

ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าอัตรา 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและเงินสำรองอื่น

Back to top button