III กำไรเยี่ยม
หากพูดถึงกลุ่มบริการทางด้านขนส่งและโลจิสติกส์ III เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุน เนื่องจากบริษัทเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร (fully integrated) ซึ่งมีบริการที่หลากหลาย แบ่งเป็น 4 หน่วยธุรกิจหลัก ทั้งทางอากาศ ทางทะเล การบริหารจัดการโลจิสติกส์ และการจัดการโลจิสติกส์วัสดุอันตราย
คุณค่าบริษัท
หากพูดถึงกลุ่มบริการทางด้านขนส่งและโลจิสติกส์ บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุน เนื่องจากบริษัทเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร (fully integrated) ซึ่งมีบริการที่หลากหลาย แบ่งเป็น 4 หน่วยธุรกิจหลัก ทั้งทางอากาศ ทางทะเล การบริหารจัดการโลจิสติกส์ และการจัดการโลจิสติกส์วัสดุอันตราย
ที่สำคัญมีจุดเด่นในแต่ละประเภท เช่นทางอากาศ: Cargo General Sales Agent (GSA) ตัวแทนขายระวางสินค้าให้กับสายการบินเพียงผู้เดียวให้กับสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ในทุกเส้นทางที่เข้าและออกจากสนามบินดอนเมือง และสายการบิน Sri Lankan, Lan Cargo, Bhutan, Jeju Airlines ในทุกเส้นทางที่ออกจากประเทศไทย และมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรในจุดที่มีการเติบโตสูง ได้แก่ การขนส่งสินค้าที่สนามบินดอนเมือง
จากข้อมูลในอดีตจะเห็นได้ว่าปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านสนามบินดอนเมืองมีการเติบโตสูงถึง 38% และ 34% ในปี 2558-2559 ตามลำดับ และปริมาณการขนส่งสินค้ามีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องจากแนวโน้มของการค้า online ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก
นั่นก็หมายความว่า ด้วยธุรกิจที่ครบวงจร และมีจุดแข็งในตัวเองสำหรับการแข่งขันกับรายอื่นๆ จึงไม่แปลกใจที่บริษัทยังคงความสามารถในการทำกำไรได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะในงวดผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 524.96 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 509.66 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 26.10 ล้านบาท หรือ 0.0523 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 25.58 ล้านบาท หรือ 0.0595 บาทต่อหุ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ และธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,603.46 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,480.15 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 109.54 ล้านบาท หรือ 0.2404 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 75.49 ล้านบาท หรือ 0.1755 บาทต่อหุ้น แสดงถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจบริษัท
สิ่งสำคัญ เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจต่อการลงทุน พบว่าฐานะทางการเงินของบริษัทยังดูดีมาก เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 1,195.75 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 388.22 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 3.08 เท่า ถือว่าสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทมากพอสมควรในการขยายกิจการ
ส่วนหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมแค่ 431.60 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นมากถึง 1,094.94 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.39 เท่า แสดงว่า บริษัทปลอดจากภาระหนี้จริงๆ
สำหรับหุ้น III ถือว่าเป็นหุ้นอีกตัวที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม!!
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
- นายทิพย์ ดาลาล 141,371,386 หุ้น 23.39%
- นายวิรัช นอบน้อมธรรม 107,944,074 หุ้น 17.86%
- นายธีรนิติ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา 60,710,381 หุ้น 10.04%
- นายเฉลิมศักดิ์ กาญจนวรินทร์ 27,952,484 หุ้น 4.62%
- นายจิโรจ พนาจรัส 27,952,484 หุ้น 4.62%
รายชื่อกรรมการ
- นายเกริกไกร จีระแพทย์ ประธานกรรมการ
- นายเกริกไกร จีระแพทย์ กรรมการอิสระ
- นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- นายทิพย์ ดาลาล กรรมการ
- นายวิรัช นอบน้อมธรรม กรรมการ