บัญชีมืด GL ไม่จบ! ผู้สอบฯสั่งตั้งสำรองเงินสีเทาอ่วม Q3/60 ขาดทุนยับ 2.61 พันลบ.
บัญชีมืด GL ไม่จบ! ผู้สอบฯสั่งตั้งสำรองเงินสีเทาอ่วม Q3/60 ขาดทุนยับ 2.61 พันลบ. จากปีก่อนมีกำไร 260.34 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนแรกพลิกขาดทุน 1.94 พันล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 738.98 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโสภณ เพิ่มศิริวัลลภ ผู้สอบบัญชีของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL และบริษัทย่อยได้แสดงวามเห็นในรายงานการสอบทานและ งบการเงินระหว่างกาล สำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.60 โดยให้ข้อสรุปอย่างมีเงื่อนไข
พร้อมระบุว่า จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ นายมิทซึจิ โคโนชิตะ อดีตประธานคณะกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีถ่ายโอนเงินให้กู้ยืมให้แก่กลุ่มผู้กู้สองกลุ่ม (กลุ่มไซปรัสและกลุ่มสิงคโปร์) ไปอยู่ภายใต้การควบคุมและเข้าผลประโยชน์ส่วนตัว ตามที่ปรากฏในบัญชีจำนวนเงินให้กู้ยืมแก่ผู้กู้ทั้งสองกลุ่มดังกล่าวมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 98 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา
โดยในจำนวนดังกล่าว ได้ถูกกล่าวหาโดย ก.ล.ต. ว่ามีการทุจริตโดยอดีตผู้บริหารเป็นจำนวน 54 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ซึ่งภายหลังจากที่งบการเงินซึ่งได้ตรวจสอบแล้วสำหรับปี 59 ได้มีการจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนเป็นจำนวนรวม 42 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา
ดังนั้น เพื่อตอบสนองต่อคำสั่งของ ก.ล.ต. ในการแก้ไขและทำให้งบการเงินในอดีตถูกต้อง ผู้สอบบัญชีจึงได้ขอข้อมูลรายละเอียดคำกล่าวหาต่ออดีตผู้บริหารจาก ก.ล.ต. แต่ GL โต้แย้งว่ายังไม่ได้ข้อมูลจาก ก.ล.ต. จึงไม่สามารถแก้ไขงบการเงินในอดีตสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.59 และงบการเงินรายไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.60 และ 30 มิ.ย. 60
อย่างไรก็ตาม บริษัทตัดสินใจที่จะตั้งสำรองเผื่อขาดทุนจำนวน 56 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาสำหรับการทุจริตครั้งนี้ต่อกำไรสำหรับไตรมาสนี้ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.60
นอกจากนี้ยังมียอดลูกหนี้ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในปี 60 คงค้างจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอดีตผู้บริหารจำนวนประมาณ 9 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทได้ตั้งสำรองเผื่อขาดทุนสำหรับยอดดังกล่าว ทำให้ยอดสำรองเผื่อผลขาดทุนสำหรับการทุจริตครั้งนี้ที่บันทึกตัดกำไรสำหรับไตรมาสสิ้นสุด 30 ก.ย.60 มีจำนวนรวม 65 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอดีตผู้บริหารถูกกล่าวหาอย่างเป็นทางการ และอยู่ระหว่างการสอบสวนตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งยังไม่เสร็จสิ้นและข้อจำกัดของผู้สอบบัญชีภายนอกในการพิจารณาสถานะที่แท้จริงของการกู้ยืม ผู้สอบบัญชีจึงไม่สามารถสรุปมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนของหนี้ดังกล่าวได้และไม่สามารถสรุปผลของการกล่าวโทษโดย ก.ล.ต. ต่อลูกหนี้และดอกเบี้ยรับ รวมถึงไม่สามารถสรุปความเหมาะสมของสำรองเผื่อขาดทุนจำนวน 65 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้จากกรณีดังกล่าวส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.60 ของ GL มีผลขาดทุน 2.61 พันล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 260.34 ล้านบาท ดังนี้
โดยบริษัทได้อธิบายถึงสาเหตุที่ส่งผลให้ผลการดำเนินการประจำไตรมาสดังกล่าวพลิกขาดทุนว่า มาจากกการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของลูกหนี้เงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับในงบการเงินรวมมีจำนวน 1.95 พันล้านบาท เกิดจากการตั้งสำรองพิเศษเต็มจำนวนสำหรับเงินให้กู้ยืมเพื่อให้สอดคล้องกับหลักความระมัดระวังและเพื่อเป็นการให้ความร่วมมือกับ ก.ล.ต ในระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สุด
รวมถึงผลขาดทุนจากการตั้งสำรองค่าเผื่อการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทร่วม มีจำนวน 582.09 ล้านบาท ซึ่งตั้งสำรองโดยอิงจากข้อมูลและเหตุการณ์ที่เน้นในรายงานของผู้สอบบัญชีของบริษัทในไตรมาสก่อน