สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 พ.ย. 60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบดิ่งลงเกือบ 2% นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้มาตรการปฏิรูปภาษีของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,409.47 จุด ลดลง 30.23 จุด หรือ -0.13% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,578.87 จุด ลดลง 5.97 จุด หรือ -0.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,737.87 จุด ลดลง 19.72 จุด หรือ -0.29%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลง หลังจากทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลงในเดือนต.ค. นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.6% ปิดที่ 383.86 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,033.48 จุด ลดลง 40.94 จุด หรือ -0.31% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,315.58 จุด ลดลง 26.05 จุด หรือ -0.49% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,414.42 จุด ลดลง 0.76 จุด หรือ -0.01%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบติดต่อกัน 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) จากแรงกดดันของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ร่วงลงภายหลังจากจีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัว
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 0.76 จุด หรือ -0.01% ปิดที่ 7,414.42 จุด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) โดยสัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกรอบเวลาในการบังคับใช้ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ระดับ 1282.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.6 เซนต์ หรือ 0.15% ปิดที่ 17.073 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 8.30 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 927.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.15 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 985.55 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้ และปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากรายงานที่บ่งชี้ว่า การผลิตน้ำมันในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 55.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 95 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 62.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการผลักดันกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ รวมถึงกังวลเกี่ยวกับศักยภาพเศรษฐกิจของสหรัฐในการรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1795 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1668 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3170 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3116 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7635 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7625 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.38 เยน จากระดับ 113.62 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9893 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9961 ฟรังก์สวิส