PACE แจ้งงบไตรมาส 3/60 ขาดทุนเพิ่มขึ้น ตลท.ห้ามซื้อขาย 1 วัน เหตุผู้สอบไม่แสดงความเห็น
PACE แจ้งงบไตรมาส 3/60 ขาดทุนเพิ่มขึ้น 20% ตลท.ห้ามการซื้อขาย 1 วัน เหตุผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นงบการเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (15 พ.ย.60) บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/60 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 60 และงวด 9 เดือนปี 60 ดังนี้
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวขาดทุนเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายรวม 1,371 ล้านบาท หรือร้อยละ 64 ของรายได้รวม ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายในการขายจำนวน 924 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 353 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 62จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ขณะที่ บริษัทฯ มีดอกเบี้ยจ่ายจำนวนรวม 436 ล้านบาท แบ่งเป็นต้นทุนทางการเงินจำนวน 260 ล้านบาท และต้นทุนการกู้ยืมที่บันทึกเป็นสินทรัพย์จำนวน 176 ล้านบาท ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้เพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการมหาสมุทร และโครงการนิมิต หลังสวน และการขยายสาขาของ ดีน แอนด์ เดลูก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตามบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 2,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 168 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 796 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการรับรู้ยอดขายโอนห้องชุดพักอาศัย เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก จำนวน 1,360 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 64 ของรายได้รวม) จากการโอนห้องชุดพักอาศัยจำนวน 27 เรสซิเดนซ์ และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ดีน แอนด์ เดลูก้า จำนวน 702 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ33ของรายได้รวม) การเพิ่มขึ้นจากรายได้อื่นๆ รวมถึงการรับรู้รายได้จากการขายสิทธิการใช้แบรนด์และชื่อทางการค้า “ดีน แอนด์ เดลูก้า” จำนวน 70 ล้านบาท
ขณะที่ นางสาววิมลศรี จงอุดมสมบัติ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขทะเบียน 3899 บริษัท เบเคอร์ ทิลลี่ ออดิท แอนด์ แอ็ดไวเซอร์รี่ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุใน ข้อมูลทางการเงินระหว่างกาลสำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 และรายงานการสอบทานข้อมูลทางการเงินระหว่างกาลของ PACE โดยไม่ให้ข้อสรุปต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม และการให้ข้อสรุปอย่างมีเงื่อนไขต่องบแสดงฐานะการเงินระหว่างกาลสำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 จากการถูกจำกัดขอบเขตโดยสถานการณ์เรื่องการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว
โดยระบุว่า “ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานสอบทานตามมาตรฐานงานสอบทาน รหัส 2410 การสอบทานข้อมูลทางการเงินระหว่างกาลโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตของกิจการ การสอบทานดังกล่าวประกอบด้วย การใช้วิธีการสอบถามบุคลากรซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้รับผิดชอบด้านการเงินและบัญชีและการวิเคราะห์เปรียบเทียบและวิธีการสอบทานอื่น การสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัดกว่าการตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชี ทำให้ข้าพเจ้าไม่สามารถให้ความเชื่อมั่นว่าจะพบเรื่องที่มีนัยสำคัญทั้งหมด ซึ่งอาจพบได้จากการตรวจสอบ ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่อข้อมูลทางการเงินระหว่างกาลที่สอบทานได้”
ทั้งนี้ตามที่กลุ่มบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่นได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระแห่งหนึ่ง เพื่อทำการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน บริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด และบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด
โดยใช้วิธีประมาณการรายได้ (Income Approach) และคำนวณคิดลดกระแสเงินสดมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน ตามรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระดังกล่าวลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 เงินลงทุนดังกล่าวมีมูลค่ายุติธรรมจำนวนเงิน 8,231 ล้านบาท และกลุ่มบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ได้บันทึกเงินลงทุนในงบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 จำนวนเงิน 8,231 ล้านบาท และรับรู้ผลกระทบจากการสูญเสียการควบคุมในบริษัทย่อยในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 จำนวนเงิน 8,857 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามจากข้อจำกัดโดยสถานการณ์ ข้าพเจ้าไม่สามารถสรุปผลการสอบทานรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระดังกล่าวเกี่ยวกับการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว จากข้อเท็จจริงที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จจึงไม่มีผลการประกอบการพาณิชยกิจจริงเพื่อเปรียบเทียบและเป็นธุรกิจใหม่ในตลาดของไทย เนื่องจากความไม่แน่นอนอย่างเป็นสาระสำคัญของการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว ตามที่กล่าวไว้ในวรรคเกณฑ์ในการไม่ให้ข้อสรุปต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม อาจมีผลกระทบอย่างมีสาระสำคัญต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถให้ข้อสรุปผลการสอบทานของข้าพเจ้าต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560
ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขึ้นเครื่องหมาย SP หุ้น PACE ในรอบการซื้อขายเช้าวันนี้ (15 พ.ย.60) กรณีผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินของบริษัทสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.60 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้
อย่างไรก็ตามตลท.จะปลดเครื่องหมาย SP ตั้งแต่รอบเช้าวันที่ 16 พ.ย. พร้อมกับขึ้นเครื่องหมาย NP ในวันเดียวกัน และจะคงเครื่องหมาย NP จนกว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไขหรือจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่าไม่ต้องแก้ไขงบการเงิน