WHAUP ลุ้นกำไร Q4/60 โตสนั่น โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” อัพเป้าใหม่ 9 บ.
WHAUP ลุ้นกำไร Q4/60 โตไม่หยุดจากธุรกิจน้ำ-พลังงาน จากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าอุตสาหกรรม ฟากโบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" ให้ราคาพื้นฐาน 9 บาท
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP หลังบริษัทประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3/60 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากรายได้จากการดำเนินงานของธุรกิจน้ำและพลังงาน
โดยนักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่าผลประกอบการของ WHAUP ในช่วงไตรมาส 4/60 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดกำไรในปี 61 และ 62 จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 9% จากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 60
ขณะที่ราคาหุ้น WHAUP ปิดตลาดวานนี้ (16 พ.ย.60) อยู่ที่ 7.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าซื้อขาย 165.87 ล้านบาท ทั้งนี้ยังคงมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 9 บาท อยู่ 16.13%
ขณะที่ นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำ “ซื้อ” หุ้น WHAUP ในราคาเป้าหมายใหม่ที่ 9 บาท โดยมีการปรับประมาณการในส่วนของ Equity Income เพิ่มขึ้น ภายหลังจากที่โรงไฟฟ้าต่างๆ สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ได้อย่างเต็มที่ตามแผน ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/60 คาดว่ากำไรจะปรับตัวดีขึ้นจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า SPP ที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม WHAUP เป็นหนึ่งในหุ้นที่ถูกนำเข้าสู่ดัชนี MSCI Small Cap Index ล่าสุดราคาปรับตัวไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าการประกาศของ MSCI จึงถือเป็น Laggard play ที่น่าสนใจของธีมนี้ (ORI +6.6%, GGC +5.1%, VNT +3.1%)
ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำ “ทยอยซื้อ” หุ้น WHAUP ในราคาพื้นฐานที่ 8.15 บาทต่อหุ้น โดยคาดกำไรในปี 61 และ 62 จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 9%
โดย WHAUP ประกาศกำไรไตรมาส 2/60 โต 207.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนแรกมาจากธุรกิจน้ำที่มีปริมาณขายและราคาขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6% และ 3% ตามลำดับ เหตุหลักมาจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าบีกริมเพาเวอร์ 1 ในช่วงไตรมาส 4/59 ส่วนมาจากส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็น 558.6 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 162.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนจากโรงไฟฟ้ากัลฟท์ วีทีพี ดำเนินงานเต็มไตรมาสและ GTS-1และ GTS-2 ที่ทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3/60
ทั้งนี้ คาดแนวโน้มธุรกิจน้ำและพลังงานในไตรมาส 4/60 ยังโตต่อเนื่องจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 60 ส่วนโครงการวางท่อและค้าปลีกก๊าซธรรมชาติในนิคมเหมราชฯ ที่เสริมเข้ามาคาดรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/61 เป็นต้นไป
อนึ่งก่อนหน้านี้ นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WHAUP เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 3 เป็นโครงการโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (Small Power Producer -SPP) โดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง และเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ดับบลิวเอชเอเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.99) และบริษัท กัลฟ์ เอ็มพี จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 25.01 และร้อยละ 74.99 ตามลำดับ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับโครงการดังกล่าวมีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญาทั้งสิ้น 125 เมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตไอน้ำตามสัญญา 25 ตันต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด (HESIE) อ.ปลวกแดง จ.ระยอง
ทั้งนี้โรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 3 เป็นโรงไฟฟ้าแห่งที่ 4 ในการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท กัลฟ์ เอ็มพี จำกัด ที่ได้เริ่มดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี 60 ถัดจากโรงไฟฟ้า กัลฟ์ วีทีพี โรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 1 และ โรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 2 ซึ่งได้เริ่มดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ไปแล้วเมื่อวันที่ 16 พ.ค.60, วันที่ 8 ก.ค. 60 และวันที่ 1 ก.ย.60 ที่ผ่านมาตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน WHAUP มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่เริ่มดำเนินผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วจำนวน 478.4 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้า 4 โรงดังกล่าวข้างต้น) และอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาอีกจำนวน 63.6 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ทั้งหมดในปี 61-62