ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง “ธนบุรี เฮลท์แคร์” ขาย IPO 85 ล้านหุ้น เล็งเทรด SET ปลายปี 60
ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง “ธนบุรี เฮลท์แคร์” หรือ THG จ่อขาย IPO จำนวน 85 ล้านหุ้น มั่นใจเข้าเทรด SET ทันในปี 60 โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยความคืบหน้าการนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่าจะเข้าจดทะเบียนได้ทันภายในปีนี้ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ที่ได้อัพเดตข้อมูลเพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อย โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวนไม่เกิน 85 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 10.01% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ โดยปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 849.08 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 849.08 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและชำระแล้ว 764.08 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายการลงทุนโครงการต่างๆ ตามแผนงานที่วางไว้ เช่น การเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการของ Welly Hospital ในเมือง เวยไห่ ประเทศจีน ซึ่งได้ทำพิธีเปิดไปเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา และเป็นโรงพยาบาลไทยแห่งแรกที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในจีน
ส่วนการร่วมทุนในโครงการโรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในไตรมาส 2/61, การพัฒนาโครงการ JIN Wellbeing County ในย่านรังสิต ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัยและให้บริการทางการแพทย์อย่างครบวงจร ภายใต้คอนเซปต์เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ
และโครงการพัฒนาอาคารบำรุงเมืองพลาซ่า (อาคารโซโห) ให้เป็นโรงพยาบาลศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ ธนบุรี แห่งใหม่บนถนนบำรุงเมือง เพื่อรองรับผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกายและกายภาพบำบัด ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วยและครอบครัว รวมถึงส่งผลดีต่อโรงพยาบาลธนบุรีให้สามารถรับผู้ป่วยหนักเข้ารับการรักษาได้มากยิ่งขึ้น
“เราได้เดินหน้าลงทุนโครงการต่างๆ ตามแผนงาน เพื่อผลักดันการเติบโตในอนาคตทั้งการขยายการลงทุนในไทยและต่างประเทศ รวมถึงการขยายกำลังการให้บริการของโรงพยาบาลที่มีอยู่เดิม ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจและขีดความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้” นพ.บุญ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3/60 มีกำไรสุทธิ 171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 156.04 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,646.77 ล้านบาทโดยมีปัจจัยมาจากรายได้จากกิจการโรงพยาบาลที่เติบโตได้ดีประมาณ 6.7% เนื่องจากรายได้ผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการรักษาผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคเฉพาะทางเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ภาพรวมงวด 9 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมีรายได้รวม 4.87 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4.66 พันล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาล การขายสินค้าและการให้บริการเติบโตได้ดีในทุกส่วน และมีกำไรสุทธิ 401.37 ล้านบาท ชะลอตัวเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 428.96 ล้านบาท