สงคราม(หุ้น)มือถือ
ช่วงนี้โทรศัพท์มือถือกำลังออกรุ่นเรือธงกันออกมา เช่น Apple ส่ง iPhone 8, 8 Plus และ iPhone x หรือค่ายซัมซุงส่ง Note 8 และ S8 ล่าสุดที่กำลังมาแรง คือ Huawei ออกรุ่น Mate 10 Pro
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
ช่วงนี้โทรศัพท์มือถือกำลังออกรุ่นเรือธงกันออกมา
เช่น Apple ส่ง iPhone 8, 8 Plus และ iPhone x หรือค่ายซัมซุงส่ง Note 8 และ S8
ล่าสุดที่กำลังมาแรง คือ Huawei ออกรุ่น Mate 10 Pro
ที่ยกตัวอย่างมานี้ ราคาจะมากกว่า 2.540 หมื่นบาท ไปจนถึง 4.00 หมื่นบาทกันทั้งนั้นครับ
และทั้งหมดต่างเป็นรุ่นที่อยู่ในความสนใจอย่างมาก
โปรโมชั่นรูปแบบที่เราเห็นกันคือ หากมีการย้ายค่าย (ใช้เบอร์เดิม) จะมีส่วนลดค่าโทรศัพท์ในรุ่นดังกล่าวให้ด้วย
ราคาที่ลดให้อยู่ระหว่าง 1,000–1,500 บาท
ส่วนแคมเปญ ลดลดค่าบริการรายเดือนก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
ชิงไหวชิงพริบกันน่าดู
มาดูตัวเลขยอดส่วนแบ่งตลาดของบรรดาเจ้าของค่ายมือถือกันหน่อย
ล่าสุด ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 หุ้น TRUE มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 26.5% อยู่อันดับ 2 ของธุรกิจ
ส่วน DTAC ร่วงไปอยู่อันดับ 3 มีส่วนแบ่งตลาด 24.7%
และของ ADVANC หรือ เอไอเอส ยังคงครองอันดับ 1 ด้วยตัวเลขประมาณ 44-45% แม้ว่าในช่วงไตรมาส 3/2560 จำนวนผู้ใช้บริการจะลดลงไปกว่า 2.87 แสนราย
ในด้านของผลประกอบการของไตรมาส 3/2560 หุ้น ADVANC มีกำไรสุทธิ 7,428 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9%
แต่ตัวเลขกำไรนี้ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้
DTAC กำไรในไตรมาสดังกล่าว 601 ล้านบาท ลดลง 8.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้เช่นกัน
มาดูของ TRUE กัน
มีผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3 กว่า 691 ล้านบาท แต่ยังถือว่าลดลงจากไตรมาส 3/2559 ที่ขาดทุนกว่า 1.20 พันล้านบาท และตัวเลขขาดทุนนี้ ถือว่าดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้
มีประเด็นที่น่าสนใจคือ แม้ TRUE จะขาดทุนจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหุ้นตัวนี้ไปแล้ว
แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หรือ “ถือ”
และไม่ค่อยจะเห็นคำแนะนำขายสักเท่าไหร่
เหตุผลก็คือว่า มีการมองกันว่า กลยุทธ์ทางการตลาดที่ TRUE ใช้อยู่ จะสร้างโอกาสที่ดีให้กับ TRUE ในด้านของส่วนแบ่งการตลาด
จะเห็นว่าตัวเลขสิ้นไตรมาส 3 ของ TRUE เพิ่มขึ้น
และตัวเลขนี้จะสวนทางกับ ADVANC และ DTAC ที่ลดลง
มีการมองกันว่า ตัวเลขค่าใช้จ่ายด้านการตลาดของ TRUE อาจจะค่อยๆ ปรับลง หลังจากแชร์ในตลาดเพิ่มขึ้น
TRUE ยังมีสตอรี่ดีจากการเตรียมขายสินทรัพย์เข้า DIF ด้วย
มูลค่าในการขายอยู่ประมาณ 6.50-7.20 หมื่นล้านบาท
และคาดกันว่า TRUE จะได้รับเงินประมาณ 4 หมื่นล้านบาทในช่วงครึ่งแรกปี 2561 และจะมีการนำเงินส่วนนี้ไปใช้หนี้ และจ่ายค่าคลื่นกับ กสทช.
และที่สำคัญ TRUE จะไม่ต้องเพิ่มทุนอีก
โบรกฯ บางแห่ง มองไปว่า ปี 2561 TRUE จะพลิกจาก “ขาดทุนสะสม” มาเป็น “กำไรสะสม”
แต่ก็มีมุมมองอีกว่า การแข่งขันที่รุนแรงของค่ายมือถือ จะยิ่งทำให้ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อมาร์จิ้นที่ลดต่ำลง (แม้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม)
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนรายใหญ่ เช่น สาย VI ต่างปรับพอร์ต ลดการลงทุนหุ้นในกลุ่มมือถือ
นักลงทุนบางคนเรียกหุ้นกลุ่มสื่อสารว่า “สุสาน”
ทั้งหมดต่างมองว่า หุ้นมือถือ อาจไม่ใช่หุ้นที่น่าสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อไปแล้ว
นอกจากการแข่งขันรุนแรง การทำโปรโมชั่น
เรื่องของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น
ล่าสุด บรรดาค่ายมือถืออาจกำลังช่วงชิงคลื่นใหม่คือ 1800/900 MHz ในปี 2561
ข่าวนี้กลับบั่นทอนทำให้ราคาหุ้นมือถือปรับลง เพราะกังวลว่า ราคาประมูลอาจจะสูงเกินไป และทำให้ค่ายมือถือมีมาร์จิ้นลดต่ำลง
นี่คือภาวะสงครามของค่ายมือถือที่กำลังเผชิญกันอยู่