BEAUTY พุ่งแรงกว่า 7% ทุบสถิตินิวไฮ-ชูหุ้น Growth Stock อัพเป้าสูง 25 บ.
BEAUTY พุ่งแรงกว่า 7% ทุบสถิตินิวไฮ-ชูหุ้น Growth Stock อัพเป้าสูง 25 บ. โดยล่าสุด ณ เวลา 15.54 น. ราคาอยู่ที่ 21.60 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 7.46% สูงสุดที่ 22.30 บาท ต่ำสุดที่ 20.20 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 1.85 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นบริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ล่าสุด ณ เวลา 15.54 น. ราคาอยู่ที่ 21.60 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 7.46% สูงสุดที่ 22.30 บาท ต่ำสุดที่ 20.20 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 1.85 พันล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.41% ทั้งนี้ราคาหุ้นทำจุดสูงสุดนับตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2555
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงในวันนี้ คาดว่ามาจากการที่บริษัทมียอดขายโตต่อเนื่อง
ด้าน บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (22 พ.ย.) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น BEAUTY ให้ราคา Fair Value ใหม่เป็น 25 บาท/หุ้น และมี Upside อีกถึง 24.4% พร้อมชูให้เป็นหุ้น Growth stock เนื่องจากนักวิเคราะห์เพิ่งปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2560 ขึ้นเพราะผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 ที่เติบโตแรงถึง 65% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และ 27% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ซึ่งหนุนจากยอดขายสาขาตนเอง เติบโต 22% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน (ในส่วนของยอดขายสาขาเดิมเติบโต 18.6% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน)
รวมทั้งมีการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 4% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน รวมทั้งยอดขายผ่านช่องทางขายอื่น เช่น ขายต่างประเทศ, ผ่านร้านค้าของผู้ค้าปลีกรายอื่น และผ่านช่องทางออนไลน์ เติบโตยังโตแรงถึง 143% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และ Net margin เพิ่มเป็น 32.9% จาก 28.6% ในไตรมาส 3/59
โดยรวมทำใหม่กำไรงวด 9 เดือน ปี 60 77% ของประมาณการทั้งปี 2560 จึงทำให้ทำให้นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มประมาณการฯ ปี 2560-61 ขึ้นปีละ 22% จากเดิม โดยมีการปรับเพิ่มสมมติฐานใน 2 ส่วน คือ ปรับยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ปีนี้และปีหน้าขึ้นเป็น 25% และ 20% จากเดิม 15% และ 11% ผลจากยอดขายต่อใบเสร็จเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่ และอีกส่วนมาจากจำนวนใบเสร็จซื้อที่เพิ่มขึ้น ตามกำลังซื้อฟื้นตัวโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน
พร้อมทั้งปรับเพิ่มยอดขายช่องทางอื่นในปีนี้และปีหน้าขึ้นอีก 19% และ 37% จากประมาณการเดิม โดยทั้งช่องทางการจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศ (ช่องทางค้าส่ง) ช่องทางการขายผ่านร้านค้าของผู้ค้าปลีกรายอื่น (7-11, Big C, Tesco Lotus, King Power และร้านค้าปลีกอื่นๆ) และช่องทางการขายออนไลน์ มีแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจนมาก