ภาพรวม Q3 หุ้นหมวดพาณิชย์กำไรเฉิดฉาย

เส้นทางนักลงทุน

บริษัทในหมวดพาณิชย์ที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2560 ออกมาเฉิดฉายเป็นส่วนใหญ่

เนื่องด้วยมีบริษัททำกำไรเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน  13 บริษัท ได้แก่ IT, FTE, COM7, BEAUTY, MEGA, COL, HMPRO, GLOBAL, CPALL, ROBINS, BIG, CSS และ MAKRO

ส่วนบริษัททำกำไรลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนมีเพียง 4 บริษัท ได้แก่ BJC, MC, FN และ SINGER

ขณะที่บริษัทที่พลิกขาดทุนมีเพียง 1 บริษัท คือ LOXLEY

สรุปได้ว่าผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3/60 ของหมวดพาณิชย์ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มค้าปลีกถือว่าอยู่ในทิศทางเป็นบวก  ซึ่งสะท้อนว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมาอย่างชัดเจน

ทั้งนี้บริษัทที่ทำกำไรเพิ่มขึ้นสูงสุดของหมวดพาณิชย์ วัดจาก (%เปลี่ยนแปลง) ตกเป็น บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ IT มีการรายงานผลการดำเนินงาน ไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 มีกำไรสุทธิ 23.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.81% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 11.81 ล้านบาท เนื่องจากมาร์จิ้นจากการขายสินค้าที่ดีขึ้น

รองลงมา บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ FTE มีการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 มีกำไรสุทธิ 40.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.87% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 20.90 ล้านบาท เกิดจากการเติบโตของรายได้ทั้งรายได้จากการขายและรายได้จากงานโรงการที่เพิ่มขึ้น

รองลงมา บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 การรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 มีกำไรสุทธิ 150.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.97% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 90.75 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักในการเพิ่มขึ้นของรายได้เป็นผลจากช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รองลงมา บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY การรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 มีกำไรสุทธิ 348.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.61% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 210.25 ล้านบาท มาจากยอด รายได้และความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายซึ่งทำได้ดี

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลผลกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 60 ของบริษัทอื่นๆ ในหมวดพาณิชย์ ดูจากตารางประกอบ

อย่างไรก็ดีบริษัทในหมวดพาณิชย์ที่อยู่ในกลุ่มค้าปลีกคงรับประโยชน์ต่อเนื่อง ด้วยมาตรการช้อปช่วยชาติหนุนหุ้นค้าปลีกงวดไตรมาส 4 จากกรณีที่ ครม.ผ่านการพิจารณามาตรการช้อปช่วยชาติ ติดต่อเป็นปีที่ 3 ระยะเวลา 23 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.-3 ธ.ค. 60 มากกว่าปี 59 ที่เคยให้ 17 วัน (ตั้งแต่วันที่ 15-31 ธ.ค. 59) เพราะเห็นว่าเดือน ธ.ค. ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยอยู่แล้ว

ขณะเดียวกันหลายฝ่ายมองว่าในปีหน้ากลุ่มธุรกิจค้าปลีกจะเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ภายใต้การคาดการณ์ภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง การเดินหน้าใช้งบประมาณในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ รวมไปถึงการลงทุนของต่างชาติที่จะทยอยไหลเข้าไปในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) น่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจภายในประเทศฟื้นตัวชัดเจน รวมไปถึงกำลังซื้อผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

ดังนั้นการลงทุนที่เน้นบริษัทมีกำไรสุทธิในหมวดพาณิชย์ ควรลงทุนในบริษัทกลุ่มค้าปลีก เนื่องจากมีความสามารถในการทำกำไรสุทธิได้อยู่ สิ่งสำคัญยังรับประโยชน์ต่อเนื่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

…