TKN โกยเงินเข้ากระเป๋า(เจ้าของ)
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า โลกของการลงทุนไม่มีอะไรแน่นอน และอย่าไปคาดหวังกับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่โตขึ้นมาอย่างรวดเร็วมากนัก เพราะสุดท้ายมักยืนระยะไม่ได้เป็นประจำ อาจารย์ถึงไม่แปลกใจที่ทุกวันนี้มีแต่คนปรามาสเด็กหนุ่มรุนใหม่ที่ขึ้นมาเป็นผู้บริหารเป็นเพียงแค่ “ดาวรุ่งชั่วคราว”
ตีแผ่บจ.ดัง
คุณเรวัติ จาก บางกะปิ กรุงเทพฯ พูดถึงพฤติกรรมการเทขายหุ้น TKN หรือ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ตระกูล “พีระเดชาพันธ์” ส่อให้เห็นถึงเรื่องการหาเงินเข้ากระเป๋าเจ้าของแบบเนียนๆ โดยบรรดาแมงเม่าได้แต่นั่งทำตาปริบๆ ทำให้ผมเชื่อในเรื่องมันนี่เกมขึ้นมาในทันที จึงอยากให้อาจารย์ประเมินสถานการณ์ของหุ้นตัวนี้ในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร เพื่อนักลงทุนรายย่อยจะได้ไม่หลวมตัวเชื่อในสิ่งที่คนเหล่านี้พยายามเสริมสร้างแต่งเติมขึ้นมาจนเกินจริงครับ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า โลกของการลงทุนไม่มีอะไรแน่นอน และอย่าไปคาดหวังกับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่โตขึ้นมาอย่างรวดเร็วมากนัก เพราะสุดท้ายมักยืนระยะไม่ได้เป็นประจำ อาจารย์ถึงไม่แปลกใจที่ทุกวันนี้มีแต่คนปรามาสเด็กหนุ่มรุนใหม่ที่ขึ้นมาเป็นผู้บริหารเป็นเพียงแค่ “ดาวรุ่งชั่วคราว”
ในเมื่อเข้าใจในสิ่งที่เป็นไปในลักษณะนี้แล้ว ก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า กลไกของตลาดหุ้นเปิดโอกาสให้ผู้บริหารทุกรายสามารถขายหุ้นออกได้โดยไม่ผิดกฎ ซึ่งเป็นผลมาจากผู้บริหารบางแห่งไม่อยากทำธุรกิจต่อไป หรือบางรายอาจต้องการหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองบ้าง หลังจากทนถือหุ้นมาเป็นเวลานานนั่นเอง
ขณะเดียวกันก็ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริหารซื้อหุ้นของตัวเองเพิ่มเติมได้ด้วย และเหตุผลที่ผู้บริหารซื้อส่วนใหญ่ก็มาจากความมั่นใจในฝีมือตนเองที่จะผลักดันให้ธุรกิจของตัวเองเติบโตอย่างยั่งยืน แต่เผอิญในช่วงที่ผ่านมา ก.ล.ต. ดันไปกล่าวโทษผู้บริหารที่ซื้อหุ้น พร้อมกับสั่งห้ามทำหน้าที่เป็นเวลา 1 ปี
ทั้งที่ผู้บริหารคนนั้นไม่ได้ขายหุ้นออกมา และจำนวนหุ้นที่ซื้อก็ถือว่า มีมูลค่าน้อยมากๆ จึงทำให้ผู้คนในตลาดหุ้นรู้สึกงงกับพฤติกรรมของหน่วยงานแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ดีเอาเสียเลย และทำให้ภาพลักษณ์ของ ก.ล.ต. กลายเป็นศัตรูกับบริษัทจดทะเบียนมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งสังเกตได้จากบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ไม่อยากร่วมสังฆกรรมกับหน่วยงานดังกล่าวสักเท่าไหร่นะครับ
เมื่อได้ข้อมูลเพื่อประเมินเหตุการณ์ทั้ง 2 ด้านเรียบร้อย อาจารย์ก็ขอสรุปว่า การขายหุ้นของตระกูล “พีระเดชาพันธ์” ซึ่งเป็นผู้กุมบังเหียน TKN หรือ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้จริงๆ เพราะโดยสามัญสำนึกของผู้บริหารที่ดีไม่น่าจะรีบขายหุ้น ทั้งที่เพิ่งเข้ามาได้แค่ 2 ปีกว่าๆ อีกทั้งตัวเลขกำไรก็มีแนวโน้มลดลง ทำให้ทุกคนตีความไปในด้านลบอย่างไม่ต้องสงสัย
ที่สำคัญคือ วันนี้บรรดานักวิเคราะห์จะเชียร์กันอย่างไร หรือนักลงทุนขาใหญ่ที่มีรายชื่อลำดับต้นๆ จะช่วยดันราคากันอย่างไร ก็ไม่ได้มีความหมายสำหรับอาจารย์ เพราะในมุมมองที่มีต่อหุ้น TKN ล้วนเป็นเรื่องเกมหุ้นมากกว่าเกมธุรกิจ หลังเห็นหุ้นเทรดบน P/E 50 เท่าเป็นเวลานาน ซึ่งตีความได้ว่า น่าจะเป็นการดันเพื่อให้เจ้าของปล่อยหุ้นได้ในราคาที่สูงนั่นเอง
ส่วนในโลกของความเป็นจริงกลับมีแนวคิดไปเป็นอีกแบบหนึ่งคือ เมื่อเห็นหุ้นเริ่มขึ้นใหม่ แมงเม่าก็กระโจนเข้ากองไฟกันทั้งนั้น หรือบริษัทสามารถเบ่งตัวเลขกำไรออกมาได้สวยๆ อารมณ์การเล่นของแมงเม่าก็จะอินมากขึ้นไปกว่าเดิม อาจารย์ถึงเห็นว่า อารมณ์ที่เกรี้ยวกราดของนักลงทุนเที่ยวนี้เป็นแค่ชั่วคราว
เชื่ออาจารย์เถอะ เพราะเห็นแบบนี้มาเยอะครับ
…
กราฟประกอบคอลัมน์ : Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 24 พ.ย.60