ขึ้นลุย..ลงถอย

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หลังจาก “โมนิก้า” ทิ้งทวนด้วยการตั้งประเด็นว่า ตลาดหุ้นไทยยังน่าลงทุนจริงไหม? วันนี้ก็ได้เวลานำข้อมูลต่างๆ มาเปิดเผย เพื่อทำให้นักลงทุนได้เห็นความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะ “ขึ้น” หรือ “ลง” ฝั่งไหนมีความเป็นไปได้มากกว่ากัน และเมื่อพิจารณาจากตรรกะ “หุ้นลงได้ก็ขึ้นได้” หรือ “หุ้นขึ้นได้ก็ลงได้” เดี๊ยนถึงอยากให้นักลงทุนหาทางออกให้กับตัวเองตลอดเวลา เพราะในโลกของการลงทุนไม่มีอะไรแน่นอนเจ้าค่ะ

*ยิ่งรู้ว่าหุ้นตัวไหนมีข่าวดีซัพพอร์ต ยิ่งต้องเล่นตามน้ำในทันที ระยะสั้นอาจมีอาการเป๋ไปบ้างก็จริง แต่เมื่อดูกันยาวๆ ทุกอย่างจะเดินไปในทางที่มันควรจะเป็น จังหวะนี้ถึงต้องใส่กันสุดติ่งกระดิ่งแมว ความบ้าบิ่นไม่ได้ช่วยให้รายย่อยชนะตลาด แต่การวางแผนลงทุนมาเป็นอย่างดีต่างหาก ที่ช่วยให้นักเล่นประสบความสำเร็จดั่งใจหวัง จึงเรียนมาให้ทราบนะคะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 1,706.52 จุด บวกไป 10.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.90 หมื่นล้านบาท พร้อมกับขึ้นมายืนเหนือ 1,700 จุดได้สำเร็จในช่วงระยะเวลาไม่กี่วัน ย่อมเป็นการตอกย้ำทฤษฎีย่ำฐาน เพื่อรอหาจังหวะเทคตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนบริเวณ 1,720 จุดอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้มิตรรักแฟนเพลงเข้าใจถึงประเด็นตรงนี้ให้มากๆ เพราะดัชนีจะเริ่มเหวี่ยงตัวรุนแรงมากขึ้นนะซี

*เช่นเดียวกับในรายของ AOT วอลุ่มหนาแน่นขึ้นอย่างผิดหูผิดตา แถมหุ้นทำท่าจะทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะเข้าทำของพวกขาประจำ และขอให้จำไว้ว่า งานนี้เล่นตามกระแสล้วนๆ ยิ่งหุ้นวิ่งทะลุแนวต้านระยะสั้นขึ้นมาปิดที่ 61.50 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 5.13% ด้วยมูลค่า 8.32 พันล้านบาท ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นว่า หุ้นจะวิ่งขึ้นไปหาแนวต้าน 65 บาทในเร็วๆ นี้…ทราบแล้วบอกต่อด้วยนะคะ

*คล้ายคลึงกันกับในรายของ IRPC “โมนิก้า” ถือเป็นออปชั่นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เน้นเรื่องโตยั่งยืน และเมื่อดูตามรูปการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 วัน จะเห็นว่า ข่าวสารซัพพอร์ต แรงซื้อพร้อมสรรพ หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.20 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.33% ด้วยมูลค่า 1.44 พันล้านบาท เซียนเทคนิคเขาฟันธงได้ทันทีว่า การฟอร์มตัวแบบนี้เป็นลักษณะ double top เพื่อไปต่อนะจะบอกให้

*แวะมาพูดถึงหุ้นท่าเรือน้องใหม่ PORT หลังจากเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ เหมือนจะเจอมรสุมคลื่นทะเลลูกใหญ่จนราคาอยู่แถวๆ 6 บาทไม่ขยับเขยื้อนสักที แต่! สิ่งที่น่าสนใจมันเป็นช็อตต่อเนื่องหลังจากมีการเปิดเผยรายงานการได้มาซึ่งหุ้นของรายใหญ่ชื่อดังอย่าง “นเรศ งามอภิชน” ในราคาสูงลิบลิ่ว งานนี้หลายคนคงเข้าใจว่าการซื้อหุ้นราคาขนาดนี้มันมีนัยสำคัญหรือเปล่าแต่ที่แน่ๆ ราคาหุ้นวานนี้ถีบตัวขึ้นไปแตะ 6.75 บวกไป 0.85 บาท หรือ 14.41% นู่นแล้วเจ้าค่า

*ปิดท้ายวันนี้ด้วยเรื่อง Too Good to Be True ที่ไม่ใช่ท่อนหนึ่งของเพลงดัง แต่เป็นเรื่องแห่งความฝันของ DCORP ซึ่งวันนี้ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่เอกสารแจ้งการเข้าร่วมลงทุนกับ “บริษัทกระดาษ(แถมลึกลับ)” บนเกาะซามัวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเนื้อหาใจความสำคัญอยู่ในรายละเอียดข้อ 4 ที่มีการระบุเกี่ยวกับ “การการันตีรายได้!” ว่าอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าเงินที่ให้ยืมไปอุ๊ย! ไม่ใช่! เดี๊ยนหมายถึงที่ร่วมลงทุนไปนะเจ้าค่ะ

*จริงแล้วเรื่องพรรค์นี้หากไม่คิดลึกเข้าไปถึงซอกหลืบของอะไรบางอย่างก็คงไม่มีอะไรน่าสนใจและต้องเม้าท์ถึงเป็นพิเศษ แต่บังเอิญ “โมนิก้า” เป็นสาวมั่นหน้าแถมเป็นพวกชอบแคะเกาของคาวๆ จึงระลึกนึกขึ้นมาได้ว่าไอ้ “มุกรับประกันผลตอบแทน” แบบนี้แท้จริงเป็นเพียงอุบายตื้นๆที่แก๊งต้มตุ๋น โดยเฉพาะพวกที่ชอบชักชวนคนนู้นคนนี้ไปลงทุนใช้เพื่อล่อใจเหยื่อที่มักมีนิสัยบ้องแบ๊วอยู่เป็นประจำ

*มาถึงตรงนี้ เดี๊ยนชักตงิดๆ อยากจะรู้ตามประสาคนชอบเผือกว่าท้ายที่สุดเรื่องนี้จะเอวังอย่างไร หากผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เหมือนที่คุยกันไว้? หรือแท้จริงแล้วเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้ถูกสรรค์สร้างขึ้นเพื่อหวังผลทางธุรกิจอย่างแท้จริง? แต่ได้แฝงจุดประสงค์อื่นไว้ในเรื่องราวอันเหลือเชื่อพรรค์นี้…เดี๊ยนขอสงบปากสงบคำไว้เพียงเท่านี้ก่อนเพราะยังไม่อยากจะหลุดคำพูดหวานๆ อะไรออกไป แต่อยากฝากให้มิตรรักแฟนเพลงไปลองนึกถึงสตอรี่ต่างๆ ก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวข้องกับไฟฟง…ไฟฟ้า หรือ ตุ๊กตุ่น…ตุ๊กตา อะไรทำนองนี้ แล้วค่อยมาเม้าท์กันต่อนะเจ้าคะ จุ๊บ จุ๊บ