หุ้นพราวเสน่ห์! กองทุนไล่เก็บปลายปี
เริ่มนับถอยหลังก่อนจบปี 2560 (เหลือเพียง 1 เดือนเศษ) เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะยังไม่หมดความหวังกับแรงซื้อของกองทุนประเภท LTF ที่ส่วนหนึ่งพุ่งเป้าเล็งไปยังหุ้นบิ๊กแคปจะช่วยหนุนวอลุ่มตลาดคึกคักกันในรอบสุดท้ายของปีอย่างแน่นอน
เส้นทางนักลงทุน
เริ่มนับถอยหลังก่อนจบปี 2560 (เหลือเพียง 1 เดือนเศษ) เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะยังไม่หมดความหวังกับแรงซื้อของกองทุนประเภท LTF ที่ส่วนหนึ่งพุ่งเป้าเล็งไปยังหุ้นบิ๊กแคปจะช่วยหนุนวอลุ่มตลาดคึกคักกันในรอบสุดท้ายของปีอย่างแน่นอน
ดูจากสถิติย้อนหลังพบว่านักลงทุนสถาบันในประเทศมักเป็นผู้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยช่วงท้ายของปี อ้างอิงข้อมูลในช่วง 2553-2559 โดยนักลงทุนสถาบันในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิในเดือนพฤศจิกายนถึง 6 ใน 7 ปี ด้วยมูลค่าเฉลี่ยกว่า 7.1 พันล้านบาท ขณะที่เดือนธันวาคมมีการซื้อสุทธิ 6 ใน 7 ปีเช่นกัน ด้วยมูลค่าเฉลี่ยกว่า 1.15 หมื่นล้านบาท
ดังนั้นในช่วงโค้งสุดท้ายนักลงทุนควรเลือกหุ้นกองทุนมีโอกาสซื้อสะสมเข้าพอร์ต
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ก็มองว่าแรงซื้อ LTF ยังช่วยพยุงตลาดในเดือนธันวาคม เพราะเป้าหมายในการซื้อหุ้นของกองทุน LTF มักเป็นหุ้น Big Cap ใน SET50
สำหรับหุ้นที่คาดว่าได้รับประโยชน์จาก LTF โค้งสุดท้ายปีนี้ อาทิ AOT, BEM, BBL, KBANK, TMB, HMPRO, IVL, PTTGC, LH, MINT, MTLS
อีกทั้งมีการแนะนำเล่นหุ้นปันผลสูง (High Dividend Yield Play) เพราะอีกประมาณ 4 เดือนก็จะได้ปันผลสำหรับผลประกอบการปี 60 แล้ว หุ้นปันผลเด่น เลือกแนะนำให้ลงทุนในหุ้น อาทิ KKP, KTB, LH, SENA, LALIN, DIF, TMT เป็นต้น
ที่สำคัญหุ้นดังกล่าวยังคงมีอัพไซด์ให้นักลงทุนเข้าไปไล่เก็บ….อย่างเช่น AOT มีราคาเป้าหมาย 68 บาท ส่วนด้านราคาหุ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 ปิดที่ระดับ 62.25 บาท ซึ่งราคาหุ้นจะยังคงเหลืออัพไซด์ 5.75 บาท หรือ 9.24%, BEM มีราคาเป้าหมาย 8.60 บาท ส่วนด้านราคาหุ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 ปิดที่ระดับ 7.95 บาท ซึ่งราคาหุ้นจะยังคงเหลืออัพไซด์ 0.65 บาท หรือ 8.18%,
BBL มีราคาเป้าหมาย 222 บาท ส่วนด้านราคาหุ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 ปิดที่ระดับ 199.50 บาท ซึ่งราคาหุ้นจะยังคงเหลืออัพไซด์ 22.50 บาท หรือ 11.28%, KBANK มีราคาเป้าหมาย 250 บาท ส่วนด้านราคาหุ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 ปิดที่ระดับ 227 บาท ซึ่งราคาหุ้นจะยังคงเหลืออัพไซด์ 23 บาท หรือ10.13%,
TMB มีราคาเป้าหมาย 3.20 บาท ส่วนด้านราคาหุ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 ปิดที่ระดับ 2.80 บาท ซึ่งราคาหุ้นจะยังคงเหลืออัพไซด์ 0.40 บาท หรือ 0.14%, HMPRO มีราคาเป้าหมาย 15.40 บาท ส่วนด้านราคาหุ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 ปิดที่ระดับ 12.60 บาท ซึ่งราคาหุ้นจะยังคงเหลืออัพไซด์ 2.80 บาท หรือ 22.22%,
IVL มีราคาเป้าหมาย 56 บาท ส่วนด้านราคาหุ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 ปิดที่ระดับ 49 บาท ซึ่งราคาหุ้นจะยังคงเหลืออัพไซด์ 7 บาท หรือ 14.29%, PTTGC มีราคาเป้าหมาย 103 บาท ส่วนด้านราคาหุ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 ปิดที่ระดับ 79.50 บาท ซึ่งราคาหุ้นจะยังคงเหลืออัพไซด์ 23.50 บาท หรือ 29.56%,
LH มีราคาเป้าหมาย 11.30 บาท ส่วนด้านราคาหุ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 ปิดที่ระดับ 10.50 บาท ซึ่งราคาหุ้นจะยังคงเหลืออัพไซด์ 0.80 บาท หรือ 7.62%, MINT มีราคาเป้าหมาย 50 บาท ส่วนด้านราคาหุ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 ปิดที่ระดับ 43.50 บาท ซึ่งราคาหุ้นจะยังคงเหลืออัพไซด์ 6.50 บาท หรือ 14.94% และ MTLS มีราคาเป้าหมาย 52 บาท ส่วนด้านราคาหุ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 ปิดที่ระดับ 38.75 บาท ซึ่งราคาหุ้นจะยังคงเหลืออัพไซด์ 13.25 บาท หรือ 34.19%
สำหรับหุ้นบิ๊กแคปมักจะอยู่ในลิสต์การซื้อขายของกลุ่มสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่แล้ว เพราะหุ้นกลุ่มนี้มีสตอรี่โดดเด่น กำไรมาตามนัด ฐานะการเงินแกร่ง และมีความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ และลักษณะราคาหุ้นเคลื่อนไหวขึ้นลงในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาด
นั่นก็หมายความว่าการลงทุนในหุ้นบิ๊กแคปย่อมมีความปลอดภัยกว่าการลงทุนในหุ้นที่มีแรงเก็งกำไรสูง ราคาหุ้นหวือหวาตามข่าวรายวัน