SQ ขายเพราะอินไซด์

แฉทุกวันทันเกมหุ้น

การร่วงแรงของราคาหุ้นบริษัทรับเหมาทำเหมือง “บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ” เมื่อวันศุกร์ หลังจากข่าวไม่เป็นทางการแพร่สะพัดว่า การประมูลโครงการเหมืองแม่เมาะ 9 เบื้องต้น ผู้ชนะการประมูลที่มีอยู่แค่ 2 ราย ได้แก่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD มาวิน รอแจ้งผลอย่างเป็นทางการจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หรือ EGAT เท่านั้น….ไม่ใช่เรื่องแปลก

เหตุผลเพราะโครงการดังกล่าวเป็นงานใหญ่มาก มูลค่าของโครงการเหมืองแม่เมาะ 9 ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ระยะเวลาทำเหมือง 10 ปี หรือรับรู้ปีละ 4 พันล้านบาท โดยจะเริ่มในปี 2563

ส่วน SQ ที่เป็นผู้แพ้ ก็ต้องราคาร่วงตามเนื้อผ้า เพราะก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นถูกเชื่อกันว่า ต้องชนะแบบ ….นอนมา …. มีการดันและไล่ราคาขึ้นมาเหนือ 7.00 บาทล่วงหน้า

ที่สำคัญนักวิเคราะห์บางสำนัก ก็สำทับเร่งแนะให้ขาย … อ้างว่า หาก SQ ชนะประมูล จะเพิ่ม มูลค่างานในมือที่ยังไม่รับรู้ หรือ แบ็กล็อก เป็นกว่า 7 หมื่นล้านบาท รองรับรายได้กว่า 10 ปี และเพิ่มมูลค่าหุ้นอีก 1.75 บาท จาก 7.50 บาทเป็น 9.25 บาท และอาจเพิ่มทุนในอีก 3 ปีข้างหน้า

… ส่วนการแพ้ประมูล จะทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันใกล้เต็มมูลค่าแล้ว…ต้องขายลูกเดียว เรื่องอื่นว่ากันทีหลัง ในวันข้างหน้า

เมื่อเกิดอาการ นอนมา แบบมีพระนำ… ก็ต้องแสดงความผิดหวังตามระเบียบ สมทบด้วยพวก “กระต่ายตื่นตูม” ขายตามคนอื่นโดยไม่ฟังอีร้าค่าอีรมอะไรกับเขา เป็นไปตาม… อารมณ์คุณตลาดโดยแท้ … ทั้งที่หารู้ไม่ว่า ยิ่งแพ้ยิ่งเป็นข่าวดี

เหตุผลคือ งานในโครงการขุดเหมืองแม่เมาะ 9 นี้ น่าจะเป็นทุกขลาภมากกว่า สุขลาภ… ด้วยว่าตามเงื่อนไขเจ้าของงานแล้ว คนได้รับงานจะต้องลงทุนเครื่องจักรชุดใหม่เอี่ยมยกชุด ประมาณ 1.0 หมื่นล้านบาท

กำไรที่เคย “ยกซด” กันมา ไม่ง่ายเพราะคนที่ได้งานไป อาจจะต้องก่อหนี้ แล้วเพิ่มทุน เพื่อให้ฐานทุนเพียงพอ….เรียกว่างานนี้เข้าข่าย “มหาหิน” ทีเดียวเชียว

ความผิดหวังเพราะผิดคาด ทำให้คำอธิบายของผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ อย่าง “เสี่ยอ้น” นายศาศวัต ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่พยายามปลอบประโลมใจว่า โลกไม่ได้แตกสลายเพียงเพราะประมูลงานนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะงานในมือที่แม่เมาะ 8 และงานขุดลิกไนต์ที่โรงไฟฟ้าหงสาใน สปป.ลาว ยังมีเหลือให้ทำอีกตั้ง 10 ปี … ก็มีคนที่มีอารมณ์อยากฟังนิดเดียว น้ำหนักต่ำเกินจริง

การพลาดงานประมูลแม่เมาะ 9 จึงเป็นอะไรที่น่าจะทำให้เกิดจุดพลิกผันสำคัญในมุมมองต่ออนาคตของ SQ มากกว่าข้อเท็จจริง

เพียงแต่ในมุมมองนั้น มีเหตุการณ์แทรกที่ชวนให้ตั้งคำถาม เพราะ ก่อนหน้าวันเปิดซองชี้ขาดผลตัดสินให้แม่เมาะ 9 นั้น ….เมื่อมีผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออกมาล่วงหน้า ก่อนประกาศผลรู้แพ้ชนะการประมูล

วันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสุชาติ อารีกุล จำหน่ายหุ้นสามัญของ SQ จำนวน 0.66% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้มีจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายคิดเป็น 4.75% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ และต่อมาแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ

เหตุต้องแจ้ง เพราะนายสุชาติ เป็นผู้ถือหุ้นอันดับสองใน SQ เกิน 5% และหากรวมยอดรวมตระกูลอารีกุลแล้ว ยังถือเกิน 19% ของหุ้นทั้งหมด

ผลของการแจ้ง ทำให้ราคาหุ้น SQ ปรับตัวลงแรง 7% แล้วเด้งกลับ. …ตามสูตร เพิ่งมาถึงบางอ้อเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า มีปรากฏการณ์ “นกรู้” เกิดขึ้น … จะรู้จริงหรือรู้หลอก… ไม่ใช่ประเด็น

ประเด็นหลัก ที่ต้องถาม คือ ขายทำไม??????!!!!!

แถมยังขายในเวลาก่อนรู้ผลประมูลอีก ไม่เกิน 30 วันซะด้วย….   แม้คนขายจะไม่ใช่กรรมการ ก็เถอะ

จะอ้างว่าไร้เดียงสา หรือเพราะร้อนเงินส่วนตัว หรือเพราะเหตุอื่นใด…. ก็ชวนตั้งคำถามทั้งสิ้นว่า ….  อินไซเดอร์ เทรดดิ้ง หรือที่เรียกกันเพราะพริ้งว่า ใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้นเพื่อหาประโยชน์ (ในกรณีนี้คือ ขายก่อนมีข่าวร้าย) ……. อ๊ะป่าวววววว

งานนี้ พิสูจน์ฝีมือ ก.ล.ต.อีกครั้งว่า มีหลายมาตรฐาน หรือมีแค่มาตรฐานเดียว

ทีหุ้นขาขึ้น ซื้อแล้วไม่ขาย …ก็ยังผิด

ทีตอนหุ้นขาลง ขายทิ้งก่อนเจ๊ง …. ผิดหรือไม่ผิด…. อยากรู้จัง

อิ อิ อิ