BM ลั่นรายได้ปี 61 โต 20% หลังปริมาณงานรับเหมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

BM มั่นใจรายได้ปี 61 เติบโตประมาณ 10-20% จากปริมาณงานในกลุ่มของผู้รับเหมาที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการขายหุ้น PP ให้กลุ่ม NITTO ช่วยเสริมให้บริษัทมีศักยภาพในการขยายธุรกิจเพิ่ม


นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโตอยู่ที่ระดับ 5-10% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 850.86 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทได้รับคำสั่งซื้อสินค้าประเภทราง และท่อร้อยสายไฟอย่างต่อเนื่องต่อเนื่องจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการต่างๆ

อีกทั้งยังได้รับคำสั่งผลิตตู้ไฟฟ้าและตู้สื่อสาร รวมถึงมีการรับงานผลิตแม่พิมพ์สำหรับโมเดลรถเกี่ยวข้าว และโครงรถตัดอ้อย และคำสั่งผลิตชิ้นส่วนโลหะสำหรับเครื่องจักรกลการเกษตรในปริมาณที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าหลักรายหนึ่งอีกด้วย

ขณะที่แผนการขยายโรงงานหลังที่ 5 ของบริษัท อยู่ระหว่างการก่อสร้างในพื้นที่ตรงข้ามกับสำนักงานใหญ่ โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการระดมทุน IPO ในปี 59 ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะดำเนินการสั่งซื้อเครื่องจักร และติดตั้งในไตรมาสที่ 1 ของปี 61 และติดตั้งไลน์พ่นสีใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 61 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 61

ทั้งนี้ บริษัทได้ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 40 ล้านหุ้น ในราคา 3.73 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่บุคคลในวงจำกัด หรือ Private Placement ได้แก่ NITTO KOGYO CORPORATION หรือ “NITTO” ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์เชิงกลจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถระดมทุนได้ภายในระยะเวลาอันสั้นซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และเป็นเงินทุนในการดำเนินกิจการ รวมถึงขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัท และเสริมสร้างโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่ง

อีกทั้งยังสามารถสามารถลดภาระหนี้สินจากการกู้ยืมเงิน และสามารถลดค่าใช้จ่ายทางการเงินได้ ซึ่งภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทมีศักยภาพในการขยายธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจาก NITTO มีความต้องการที่จะลงทุนในระยะยาว และมีประสบการณ์ในธุรกิจผลิต และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์เชิงกล ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัท ทำให้บริษัทคาดว่ารายได้รวมในปี 61 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปีนี้

“เรายังคงเชื่อมั่นว่ารายได้ในปี 61 จะเติบโตในระดับกว่า 20% จากปริมาณงานในกลุ่มของผู้รับเหมาที่เพิ่มสูงขึ้น ตามโครงการก่อสร้างต่างๆ ด้านโครงการการก่อสร้างโรงงานใหม่หลังที่ 5 ว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มดำเนินการผลิตได้บางส่วนต้นไตรมาสที่ 2 ของปี 60 ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตให้สูงขึ้น ส่วนการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับ NITTO จะช่วยให้เราได้ประโยชน์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการระดมทุนที่รวดเร็ว สามารถนำมาเสริมสภาพคล่องในการขยายธุรกิจ และที่สำคัญเราจะได้ผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้เป็นเพียงนักลงทุน แต่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่จะสามารถสนับสนุนการขยายธุรกิจในอนาคตได้อีกด้วย” นายธีรวัต กล่าว

ขณะที่ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนของปีนี้ สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 60 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 33.17 ล้านบาท และมีรายได้รวม 656.53 ล้านบาท

Back to top button