“กรภัทร” อัพแรงเป้า PSTC เคาะหนักแน่น 1.27 บาท ลั่นราคายังไม่รวม “บิ๊กแก๊ส-ท่อน้ำมัน!”
"กรภัทร" อัพแรงเป้า PSTC เคาะหนักแน่น 1.27 บาท ลั่นราคายังไม่รวม "บิ๊กแก๊ส-ท่อน้ำมัน!"
สืบเนื่องจากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ออกประกาศผลการคัดเลือกโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid Firm ที่มีกำลังผลิตติดตั้ง 300 เมกะวัตต์ ไปเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) พบว่า บริษัท พีเอสที เอนเนอร์ยี 1 จำกัด (โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลร่องฟอง) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการคัดเลือก โดยมีปริมาณพลังงานไฟฟ้าเสนอขายที่ได้จำนวน 23.42 MW
ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้วานนี้ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ยืนยันคำแนะนำเป็น “ซื้อ” หุ้น PSTC พร้อมให้ราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ระดับ 1 บาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่เหมาะสมหลังคำนวณ Dilution Effect จากการเพิ่มทุน แต่ได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการรับรู้กำไรจากการลงทุนใน บริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด (Biggas) และรายได้ที่จะสามารถรับรู้ได้เพิ่มเติมจากโครงการ SPP Hybrid
ล่าสุด ในวันนี้ (15 ธ.ค.60) นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน ได้ปรับประมาณการกำไรของ PSTC ในปี 61-63 ขึ้นเฉลี่ย 10.20% และปรับราคาเป้าหมายจาก 1 บาทเป็น 1.27 บาท เพื่อสะท้อนชนะประมูลโครงการ SPP Hybrid
โดยระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (15 ธ.ค.60) ว่า ปรับประมาณการกำไรของ PSTC ในปี 61-63 ขึ้นเฉลี่ย 10.20% และเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 1 บาทเป็น 1.27 บาท เพื่อสะท้อนชนะประมูลโครงการ SPP Hybrid กำลังการผลิต 23.40MWซึ่งจะหนุนโรงไฟฟ้ารวมทั้งหมดเพิ่มเป็น 69.70MW และเป็นโครงการที่มีผลตอบแทนการลงทุนที่ดี จากราคาขายไฟสูงถึง 3.38 บาท/หน่วย (สูงสุดในการประมูลรอบนี้และดีกว่าคาด 10%)
ส่วนในระยะสั้น คาดจะรับรู้รายได้จากการเข้าลงทุนในบริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด (BIGGAS) ราว 2 เดือนในไตรมาส 4/60 สะท้อนการ Turnaround และยังมี Upside risk จากสัมปทานท่อน้ำมันของ BIGGAS รอรายละเอียดที่ชัดเจนช่วยยกระดับบริษัทไปสู่ธุรกิจที่มีรายได้ประจำเพิ่มขึ้นไปอีก
ทั้งนี้ PSTC ได้รับสัญญาขายไฟ SPP Hybrid 1 โครงการหรือ 23.4MW ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดใหญ่แห่งแรกของบริษัท และมีวัตถุดิบหลักคือไม้สับ ซื้อจากพันธมิตรรายใหญ่ในจังหวัดแพร่ ผสมกับพืชพลังงานและไม้โตเร็วที่ปลูกเองเพื่อให้เกิด Efficiency การเผาไม้สูงสุด เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในโรง WKE#14 ที่บุรีรัมย์และประสบความสำเร็จมีประสิทธิภาพผลิตไฟฟ้าคงที่เหนือระดับ 90%
สำหรับรายละเอียดโครงการ เงินลงทุน MW ละ 50 ล้านบาท รวม 1.50 พันล้านบาท สัดส่วน Debt 65% & Equity 35% และคาดว่าจะใช้เงินจากการขายหุ้น PP อีก 650 ล้านหุ้นหรือมีพันธมิตรรายใหญ่เข้ามาร่วมลงทุน
ขณะที่โครงการดังกล่าวมีราคาขายไฟสูงถึง 3.38 บาท/หน่วย ส่งผลให้ IRR ดีกว่าคาดที่ 13% คาดเริ่ม COD ได้ในไตรมาส 3/63 จึงคำนวณได้เท่ากับมูลค่าพื้นฐาน (PPST#18) +0.319 บาทต่อหุ้นส่งผลให้ PSTC มีสัญญาขายไฟ (PPA) โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งหมด 69.70MW สะท้อนฐานกำไรสุทธิเฉลี่ย (CAGR) ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เติบโตสูงถึง 109% และยังคงมี Potential Upside รอการชี้แจงรายละเอียดโครงการท่อน้ำมัน TPN เพื่อประมูลค่าที่แท้จริง คาดเกิดขึ้นในปี 61 ประกอบกับอยู่ในระหว่างการศึกษาโครงการในต่างประเทศ
ทั้งนี้ แนะนำซื้อและปรับราคาเป้าหมายปี 61 ขึ้นที่ 1.27 บาท เพิ่มขึ้น 27% คำนวณแบบ Fully diluted (จำนวนหุ้นทั้งหมด 6.43 พันล้านหุ้น) โดยแบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 17 โรง รวม 69.7MW มูลค่าพื้นฐาน 0.96 บาท และงเนสด 1.44 พันล้านบาทจากการเพิ่มทุนหุ้น PP เท่ากับมูลค่า 0.22 บาท และธุรกิจรับติดตั้งระบบไฟฟ้าอิง PER 61 ที่ 16 เท่า เทากับ 0.09 บาท อย่างไรก็ดียังไม่ได้รวมมูลค่าที่แท้จริงของ BIGGAS และท่อน้ำมัน TPN ไว้ในราคาเป้าหมายครั้งนี้ยังคงรอความชัดเจนของโครงการอีกครั้งในช่วงถัดไป
ด้านราคาหุ้น PSTC ล่าสุด ณ เวลา 10.19 น. ราคาอยู่ที่ 0.81 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 1.25% สูงสุดที่ 0.83 บาท ต่ำสุดที่ 0.81 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 67.72 ล้านบาท