สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ธ.ค. 60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) หลังจากนักลงทุนได้ซึมซับรายงานข่าวที่ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้าย ก่อนที่จะส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อลงนามให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2560 ของสหรัฐในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,726.65 จุด ลดลง 28.10 จุด หรือ -0.11% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,960.96 จุด ลดลง 2.89 จุด หรือ -0.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,679.25 จุด ลดลง 2.22 จุด หรือ -0.08%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนที่ถึงช่วงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส ขณะที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบ หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า ปัจจัย Brexit จะฉุดรั้งเศรษฐกิจของอังกฤษชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.5% ในปีหน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.7% แตะระดับ 388.37 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,069.17 จุด ลดลง 146.62 จุด หรือ -1.11% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,525.22 จุด ลดลง 18.87 จุด หรือ -0.25% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,352.77 จุด ลดลง 30.14 จุด หรือ -0.56%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้หั่นคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหราชอาณาจักร เนื่องจากเศรษฐกิจอังกฤษส่งสัญญาณชะลอตัวลงหลังจากที่ตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 18.87 จุด หรือ -0.25% ปิดที่ 7,525.22 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 58.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 64.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากนักลงทุนซึมซับข่าวสภาคองเกรสไฟเขียวร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 5.4 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ระดับ 1269.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 12.2 เซนต์ หรือ 0.76% ปิดที่ 16.275 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 921.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,024.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นเนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยเพิ่มแรงดึง
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนซึมซับรายงานข่าวที่ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้าย ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1877 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1846 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3391 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3386 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7666 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7663 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.41 เยน จากระดับ 112.92 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9866 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9854 ฟรังก์สวิส