ตลท.ตั้งเป้าปี 61 มาร์เก็ตแคปแตะ 18 ล้านลบ.ดันบจ.ใหม่เข้า SET-mai ไม่ต่ำกว่า 30 บริษัท
ตลท.ตั้งเป้าปี 61 มาร์เก็ตแคปแตะ 18 ล้านลบ.ดันบจ.ใหม่เข้า SET-mai ไม่ต่ำกว่า 30 บริษัท
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.คาดในปี 61 มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5.5 แสนล้านบาท หรือมีมาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้นเป็น 18 ล้านล้านบาท จากปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 17.5 ล้านล้านบาท
โดยจะมาจากการเพิ่มทุนในบริษัทจดทะเบียนต่างๆ และคาดว่าจะมีบริษัทที่เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ไม่ต่ำกว่า 30 บริษัท โดยมีมาร์เก็ตแคปไม่ต่ำกว่า 2.8 แสนล้านบาท
นอกจากนั้น กองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ มูลค่าระดมทุน 3-4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเข้าซื้อขายภายในครึ่งแรกของปี 61 และยังมีกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำของรัฐบาล สปป.ลาว มูลค่าระดมทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จะเข้าจดทะเบียนใน SET เนื่องจากมองว่าตลาดหุ้นไทยมีขนาดใหญ่ และมีสภาพคล่องที่ดี ขณะนี้ทางกระทรวงการคลังของ สปป.ลาว และ กระทรวงการคลังไทยอยู่ระหว่างหารือร่วมกัน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 61
สำหรับตลาดหุ้นไทยในปี 61 เชื่อว่ายังเป็นทิศทางที่ดี เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตดีขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก การท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่อาจจะมีความกังวลเรื่องทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐ และ ความไม่สงบในตะวันออกกลาง แต่เชื่อว่าการลงทุนในตลาดหุ้นถือว่าให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับการลงทุนอื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นจากในปี 60 นี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นราว 10% แต่หากรวมเงินบาทที่แข็งค่า จะทำให้นักลงทุนต่างประเทศได้ผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยสูงถึง 20%
นางเกศรา กล่าวว่า ในปี 60 มี IPO เข้าซื้อขายรวม 42 บริษัท มาร์เก็ตแคปรวม 4.2 แสนล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นเข้าซื้อขายใน SET จำนวน 21 บริษัท ในตลาด mai 17 บริษัท กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 1 กองทุน และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 3 กองทุน ซึ่งถือเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่ตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ รอบ 42 ปี จากปกติแต่ละปีจะมี IPO เข้าเทรด 30-40 บริษัท และมาร์เก็ตแคปเคยทำสถิติสูงสุด ที่ 3.5 แสนล้านบาท เนื่องจากมีบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาจดทะเบียนค่อนข้างมาก