ทยอยเก็บ KKP ลุ้นกำไร Q4 โตรับยอดสินเชื่อพุ่ง-ปันผลแจ่ม

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP หลังนักวิเคราะห์ มองว่า แนวโน้มกำไรปี 60 จะเติบโตสูงกว่าปีก่อน จากยอดสินเชื่อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีความน่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องการจ่ายเงินปันผล ซึ่งคาดว่า KKP มีอัตราการปันผลที่โดดเด่น

ขณะที่ราคาหุ้น KKP ปิดตลาดวานนี้ (26 ธ.ค.) อยู่ที่ 79 บาท ลบ 0.25 บาท หรือ 0.32% มูลค่าซื้อขาย 228.94 ล้านบาท ทั้งนี้ยังคงมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 82 บาท อยู่ 4%

โดยนักวิเคราะห์ บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ KKP ให้ราคาเป้าหมาย 82 บาทต่อหุ้น โดยปี 60 คาดกำไรโต 12.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และโตต่อ 6.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 61 หนุนด้วยเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อปีละ 5% พร้อมเตรียมปรับแผนธุรกิจมาเน้นปล่อยสินเชื่อ Spread สูง เช่นสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อส่วนบุคคลมากขึ้น

ขณะที่ NPL คาดปรับตัวดีขึ้นจาก ณ สิ้นช่วงไตรมาส 3/60 ที่ 5.6% ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และคาดให้ Div. Yield จากกำไรช่วงครึ่งหลังปี 60 อีกราว 4%

ด้าน นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คงราคาเป้าหมายที่ 77 บาทต่อหุ้น แม้ราคาปัจจุบันจะสูงเกินกว่าราคาพื้นฐานไปแล้ว แต่ปันผลที่โดดเด่น ทำให้ทางฝ่ายแนะนำ “ทยอยซื้อ”

โดยคาดว่ากำไรในไตรมาส 4/60 อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีก่อนแต่ลดเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ และผลขาดทุนจากทรัพย์สินรอการขายที่ลดต่ำลง แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/60 คาดว่าจะลดลง 2.9% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นปกติที่จะมีค่าใช้จ่ายเข้ามามากในช่วงไตรมาส 4

นอกจากนี้คาดว่าสินเชื่อในไตรมาส 4/60 จะเพิ่มขึ้น 1.7% เทียบจากไตรมาสก่อน และทำให้ทั้งปีเติบโต 5.2% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน โดยนอกจากสินเชื่อรายใหญ่ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อ KKP น่าจะได้ประโยชน์จากสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อจากงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปที่เพิ่งผ่านไปด้วย ขณะที่การตั้งสำรองน่าจะยังคงต่ำเหมือนในไตรมาส 3/60 จากสถานการณ์ NPLที่ปรับตัวดีขึ้น

ดังนั้น จึงคงประมาณการปี 61 เนื่องจากการตั้งสำรองที่น้อยกว่าที่คาดไว้เดิม ทำให้กำไรปี 60 ของ KKP เมื่อรวมประมาณการไตรมาส 4/60 อยู่ที่ 6.1 พันล้านบาท ดีกว่าที่ฝ่ายคาดไว้เดิมที่ 5.6 พันล้านบาท แต่ยังคงกำไรปี 61 ไว้ที่ 6.4 พันล้านบาท

ส่วน นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ เก็บหุ้นปันผลสูง เพื่อดักการประกาศผลประกอบการและการประกาศจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียน  ซึ่งกลุ่มหุ้นปันผลเด่นมักจะเกิดแรงซื้อล่วงหน้าจนทำให้เคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดในช่วงไตรมาส 1 ของทุกปี จากสถิติ 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทที่จ่ายปันผลดีเกิน 5% และเป็นหุ้น Blue Chip ที่มีสภาพคล่องดี เช่น ADVANC INTUCH MINT SIRI LH TTW BCP QH SC TISCO KKP มักจะมีการปรับเพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของทุกปี