สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 25,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธ.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,075.13 จุด เพิ่มขึ้น 152.45 จุด หรือ +0.61% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,723.99 จุด เพิ่มขึ้น 10.93 จุด หรือ +0.40% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,077.91 จุด เพิ่มขึ้น 12.38 จุด หรือ +0.18%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้น ขานรับรายงานยอดขายรถยนต์ในสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.9% ปิดที่ 393.68 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,167.89 จุด พุ่งขึ้น 189.68 จุด หรือ +1.46% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,413.69 จุด เพิ่มขึ้น 82.41 จุด หรือ +1.55% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,695.88 จุด เพิ่มขึ้น 24.77 จุด หรือ +0.32%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากความวิตกกังวลในสถานการณ์ความไม่สงบในอิหร่าน ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ในกลุ่มโอเปก

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 24.77 จุด หรือ +0.32% ปิดที่ 7,695.88 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยความไม่สงบในอิหร่าน และความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐ อันเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 62.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2557

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 68.07 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) โดยสัญญาทองคำทำสถิติปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 10 เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยหนุนแรงซื้อในตลาดทองคำ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 1321.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ขยับขึ้น 0.2 เซนต์ ปิดที่ระดับ 17.269 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.9 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 970.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 11.40 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1,094.75 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) ถึงแม้ว่าสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของภาคเอกชนที่แข็งแกร่งเกินคาดก็ตาม

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2069 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2015 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3548 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3514 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7860 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7833 ดอลลาร์

แต่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.77 เยน จากระดับ 112.52 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9748 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9777 ฟรังก์สวิส